ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการป้องกันตนเองจากปัจจัยเสี่ยง เช่น การใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสที่ปะปนมากับละอองฝอย แต่หลายคนโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เป็นสิวง่าย ก็มักประสบกับปัญหามีสิวอุดตันขึ้นในบริเวณแก้ม คาง หรือตามกรอบหน้า
พญ.ชนิกา กุลภัทราภา แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า สาเหตุที่เกิดสิวอุดตันในบริเวณที่ใส่หน้ากากอนามัย เป็นเพราะว่าเมื่อมีอะไรไปกดทับที่ผิวหนังเป็นเวลานาน จะทำให้ไขมันที่ผลิตออกมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ระบายออกมาได้ไม่ดี จึงกลายเป็นอาหารของเชื้อยีสต์ที่อยู่บนใบหน้า ส่งผลให้ผิวหนังมีการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และอุดตันได้ง่ายมากขึ้น เพราะฉะนั้นในคนที่เป็นผื่นต่อมไขมันอักเสบหรือเซบเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis)อยู่แล้ว ก็จะสังเกตได้ว่าเวลาใส่หน้ากากอนามัยก็จะมีผื่นกระตุ้นขึ้นมา ส่วนคนที่มีโอกาสเป็นสิวง่าย หรือหน้ามันง่ายก็จะมีสิวอุดตันง่ายขึ้น
แต่ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อ COVID-19 การใส่หน้ากากอนามัยก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะฉะนั้นการดูแลผิวหน้าควบคู่ไปด้วย เป็นคำตอบที่ดีที่สุดในภาวะนี้ ซึ่งทุกคนสามารถดูแลผิวหน้าให้ห่างไกลสิวแม้จะต้องใส่หน้ากากอนามัยได้ดังนี้
1.งดการแต่งหน้า หรือแต่งเฉพาะโอกาสที่จำเป็น เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอุดตัน เพราะหากไม่มีเครื่องสำอางค์ไปกดทับอีกชั้น น้ำมันจากผิวก็จะระบายดีได้ดีขึ้น
2.ทายาที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ เพื่อช่วยลดการอุดตันของสิวในกลุ่มคนผิวมัน
3.ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดผื่นต่อมไขมันอักเสบ ในกลุ่มคนที่เป็นโรคผื่นต่อมไขมันอักเสบ หรือเซบเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) เช่น ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์บนใบหน้า และใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ที่ช่วยลดความมัน การอุดตัน และเพิ่มความชุ่มชื้นผิวไปได้พร้อมกัน
4.หากอาการไม่ดีขึ้น ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
นอกจากนี้ยังมีคนไข้อีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีอาการแพ้ส่วนประกอบที่นำมาทำหน้ากากอนามัย ลักษณะอาการคือจะมีผื่นแดงคัน ผิวลอกเป็นขุย ในบริเวณเฉพาะที่ใส่หน้ากากอนามัย แนะนำว่าต้องทามอยส์เจอร์ไรเซอร์สม่ำเสมอเพื่อเคลือบผิวและลดอาการแพ้ลงได้ แต่หากมีอาการมากขึ้น ควรมาพบแพทย์เพื่อทานและทายาต้านการอักเสบและรับการรักษาอย่างถูกวิธี