กรมวิทย์กระจายน้ำยาตรวจสกัดเชื้อโควิด-19 ให้แล็บ 50 กว่าแห่ง รวม 1 แสนชุดแล้ว เผย ตรวจยืนยันกว่า 30,000 ราย เจอป่วย 411 ราย เป็นผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง 10,000 ราย แต่ไม่มีอาการป่วยและไม่อยู่ในข่ายถึง 2 หมื่นราย ขอคนไม่มีอาการอย่าแห่ไปตรวจ เพื่อให้คนที่จำเป็นต้องตรวจรักษาตรวจก่อน และไม่เพิ่มงานเจ้าหน้าที่
วันนี้ (21 มี.ค.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ข่าวที่ รพ.รามาธิบดี น้ำยาตรวจไม่เพียงพอ ได้มีการกระจายน้ำยาช่วยเหลือแล้ว ซึ่งเป็นการขาดแคลนในส่วนของน้ำยาสกัดหาสารพันธุกรรมในการแยกเชื้อ โดยกรมฯ ได้กระจายน้ำยาไปให้ทุกห้องปฏิบัติการกว่า 50 แห่ง ทั้งของกรมฯ และโรงเรียนแพทย์ต่างๆ รวมกว่า 100,000 ชุด ซึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 พบว่า การตรวจยืนยันเชื้อในห้องปฏิบัติการมีมากถึง 30,000 เคส พบว่า เป็นผู้ป่วยยืนยันจริงแค่ 411 คน คิดเป็นแค่ร้อยละ 3-4 เป็นผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง 10,000 คน ที่เหลือ 20,000 คน ไม่ใช่ทั้งผู้ป่วยหรือผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง ฉะนั้น อยากร้องขอประชาชนที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง อย่าเพิ่งไปรับการตรวจ เพราะไม่มีความจำเป็น ขอให้คนที่ป่วยหรือมีความจำเป็นกับการวินิจฉัยโรคได้รับการตรวจยืนยันก่อน เพราะช่วยลดการทำงานของแพทย์
นพ.โอภาส กล่าวว่า เชื่อว่า ต่อไปในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ต้องมีผู้ป่วยมารับการตรวจเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีกเท่าตัว ขอให้ประชาชนตระหนักในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ประเทศไทย ตรวจยืนยันเชื้อมากกว่าประเทศญี่ปุ่นด้วยซ้ำ และส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้ป่วย หรือผู้อยู่ในข่าย ส่วนการกระจายชุดตรวจยืนยันโควิด-19 ในอนาคตนั้น จะเน้นการกระจายตามเกณฑ์การสอบสวนโรคของกรมควบคุมโรค พื้นที่ไหนมีความเสี่ยง หรือพบผู้ป่วยมากเช่น เชียงใหม่ หรือ ภาคใต้ก็ได้รับชุดตรวจมากกว่าพื้นที่อื่น ส่วนความคืบหน้าการผลิตชุดทดสอบตรวจยืนยันเชื้อร่วมกับ บ.เอกชน คาดว่า จะสำเร็จได้ใน พ.ค.