"แกร็บ" ขานรับร่วมมาตรการคุมเข้มขับขี่บนทางเท้า ร่วมมือกทม. สร้างวินัยจราจร หากแกร็บฝ่าฝืน จะโดนลงโทษโดยการเปรียบเทียบปรับจาก กทม. บริษัทจะทำการระงับสัญญาณตั้งแต่ครั้งแรกและต้องเข้ารับการอบรมใหม่
วันนี้ (2 มี.ค.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขอความร่วมมือ แกร็บ(Grab) เรื่องมาตรการลงโทษผู้ที่ขับขี่บนทางเท้าของกรุงเทพมหานคร ว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการขนส่งประจำกรุงเทพมหานคร ได้มีข้อสรุปให้มีการเพิ่มบทลงโทษสำหรับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ทำผิด โดยให้ใช้มาตรการยึดเสื้อวินกับผู้ที่กระทำความผิดเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 14 ก.พ.63 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้ทางเท้าในการสัญจรและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร ตนได้หารือร่วมกับแกร็บ(Grab) ในเรื่องมาตรการลงโทษผู้ที่ขับขี่บนทางเท้าของกทม. ซึ่งได้เริ่มดำเนินการกับมอเตอร์ไซด์รับจ้างโดยการยึดเสื้อวินสำหรับผู้ที่โดนลงโทษเรื่องฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้าเกินกว่า 2 ครั้ง ภายใน 1 ปี จากการพูดคุย Grab เห็นด้วยและสนับสนุนนโยบายดังกล่าว ซึ่ง Grab เองก็มีกฏข้อปฏิบัติเพื่อสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ให้ความร่วมมือเพื่อการขับขี่ปลอดภัยและเคารพกฏจราจร โดยมีบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฏจราจร เช่น การฝ่าสัญญาณไฟ การขับขี่ย้อนศร การขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า โดยหากผู้ขับขี่ของ Grab ฝ่าฝืน นอกจากจะโดนลงโทษโดยการเปรียบเทียบปรับจาก กทม.แล้ว บริษัทจะทำการระงับสัญญาณตั้งแต่ครั้งแรกและจะต้องเข้ารับการอบรมใหม่ และหากมีครั้งที่ 2 จะทำการระงับสัญญาณอย่างถาวรโดยไม่มีการอุทธรณ์ กรุงเทพมหานครขอชื่นชมและขอขอบคุณ Grab ที่ร่วมกันสร้างค่านิยมที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้า ส่วนภาคเอกชนอื่นๆ ที่กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือเรื่อง มาตรการลงโทษผู้ที่ขับขี่บนทางเท้าของกทม. อาทิ Kerry , Food Panda , Lalamove และ Line man ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
อนึ่ง สำหรับการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้าระหว่างวันที่ 1-24 ก.พ.63 สำนักงานเขตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 687 ราย แยกเป็น ประชาชนทั่วไป 641 ราย วินจักรยานยนต์ 28 ราย แกร๊บ 18 ราย ปรับเป็นเงิน 1,327,600 บาท