สพฐ. ออก 3 มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤติ
วันนี้ (25 ก.พ.) นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( กพฐ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเด็กนักเรียนได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อันเนื่องจากสถานการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ให้นโยบายการดูแลช่วยเหลือเด็กนักเรียน โดยกำหนดให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษามีนักจิตวิทยาประจำโรงเรียน และสร้างเครือข่ายการคุ้มครองและดูแลช่วยเหลือเด็กนักเรียนในภาวะวิกฤติระดับจังหวัด สามารถเข้าถึงสถานการณ์และให้คำปรึกษาและเยียวยาได้ทันท่วงที
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้กำหนดวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาไว้ 3 ประการ ได้แก่ 1. กำหนดให้มีการจัดตั้ง “ศูนย์เครือข่ายดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กนักเรียนในภาวะวิกฤติจังหวัด” โดยใช้นักจิตวิทยาและนักจิตวิทยาคลินิกเป็นฐาน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการใน 4 จุดภูมิภาค เพื่อการสร้างการรับรู้และเข้าใจบทบาทของการทำงาน โดยคณะกรรมการศูนย์เครือข่ายฯ นอกจากจะมีนักจิตวิทยาและนักจิตวิทยาคลินิกแล้ว ยังมีตัวแทนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดนั้นเป็นพลังขับเคลื่อนที่เข้มแข็งในการดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กนักเรียนในภาวะวิกฤติได้อย่างทันท่วงที 2. การพัฒนาครูแนะแนว ครูปกครอง ครูที่ปรึกษาของสถานศึกษาในสังกัด ให้เป็นนักจิตวิทยาประจำโรงเรียนอย่างน้อยสถานศึกษาละ 1 คน ตามหลักสูตรที่ สพฐ. กำหนด จะมีการพัฒนาในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 เมื่อเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จะมีครูที่ผ่านหลักสูตรนักจิตวิทยาประจำโรงเรียน ครบ 100%
3. สพฐ. ได้อนุมัติอัตรากำลัง ตำแหน่ง พนักงานราชการ ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาละ 1 อัตรา รวมจำนวน 225 อัตรา เพื่อให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้สรรหานักจิตวิทยาที่สำเร็จการศึกษาด้านจิตวิทยาหรือจิตวิทยาคลินิกไว้ดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กนักเรียนตามความต้องการของสถานศึกษาและในภาวะวิกฤติ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“มั่นใจว่า 3 วิธีการนี้ จะเป็นวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อดูแลช่วยเหลือเด็กนักเรียนในสถานศึกษาได้เป็นอย่างดี”นายอำนาจ กล่าว