"อนุทิน" ยันไม่ได้โป๊ะแตก ปม "เรือซีบอร์น โอเวชัน" มาเทียบท่าที่ภูเก็ต แจงมีตารางเวลามาไทยชัดเจน แสดงรายชื่อประวัติผู้โดยสาร ระบุการที่เรือออกนอกเส้นทางมีต้นทุนมหาศาล หากไม่จำเป็นจริงคงไม่มา และหากมาก็ต้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ตามหลักสากล ระบุปีหนึ่งออกนอกเส้นทางมาไทยไม่ถึง 10 ลำ ส่วนคนป่วย 20 รายจากเรือเวสเตอร์ดัม หากร้องขอมาก็พร้อมพิจารณาให้ความช่วยเหลือ
วันนี้ (14 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีเรือสำราญซีบอร์น โอเวชัน ที่มาเทียบท่าที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีการจับผิดหรือจับโป๊ะว่า เรือลำนี้ไม่ได้มีแผนมาที่ประเทศไทยอย่างที่อ้าง และถูกปฏิเสธมา 3 ประเทศ ว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้โป๊ะแตก เพราะเรือลำนี้มีตารางเวลาที่จะเข้ามาไทยอยู่แล้ว มีการยืนยันการเทียบเรือ มีรายชื่อผู้โดยสาร มีประวัติผู้โดยสาร ส่วนประเด็นเรื่องเรือออกนอกเส้นทางแล้วจะมาไทยนั้น พบว่า ปีหนึ่งมีไม่เกิน 10 ลำที่มาสำแดงเอกสารขอจอดที่ท่าเรา เพราะการออกนอกเส้นทางของเรือเหล่านี้มีต้นทุนมหาศาล ถ้าไม่มีความจำเป็นก็คงไม่มา ดังนั้น จึงต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่ง การจะไม่ให้จอดก็คงไม่ได้ แต่ก็ต้องขอฟังเหตุผล ถ้าเป็นเหตุผลที่เราต้องให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ก็ต้องทำตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีหลักเกณฑ์สากลกำหนดไว้อยู่แล้ว
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับเรือที่มาจอดทั้งหมด กรมควบคุมโรค (คร.) ก็ยืนยันว่าทำการตรวจไข้คัดกรองผู้โดยสารทุกคน และท่าเรือที่มาจอดก็เป็นท่าเรือเอกชน เขาก็ต้องมีมาตรการการคัดกรองผู้โดยสารทั้งหมด เพราะต้องรายงานต่อกรมเจ้าท่า ซึ่งหากธุรกิจเขาทำไม่ถูกต้องก็จะมีปัญหาเรื่องใบอนุญาต ทุกคนมีภารกิจหน้าที่ต้องทำอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีเรือสำราญเวสเตอร์ดัมที่เทียบท่าสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา แล้วพบว่ามีคนป่วย 20 คน นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเขาขอมาให้ช่วยเราก็ต้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ แต่ก็ยังไม่ได้รับรายงานมา ก็หวังว่า 20 คนที่ป่วยจะเป็นหวัดอื่น ไม่ใช่ไวโคโรนา19 หรือหากเป็นจริงก็ต้องหาวิธีช่วยเหลือตามควรแก่เหตุ สมมติ คนไทยมีไข้ต้องการกลับบ้านก็หาวิธีช่วยให้กลับมา