กทม.ปล่อยขบวนรถพร้อมดูแลป้องกันอัคคีภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 63 เดินหน้า จัดรถดับเพลิงประจำ 81 จุด พร้อมเข้มสถานบันเทิงร่วมเฝ้าระวังไฟไหม้ ตรวจสอบความพร้อมการใช้งานระบบ
วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีปล่อยแถวขบวนรถเพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2563 ว่า กทม.มีความพร้อมในการดูและป้องกันเหตุอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้ปล่อยแถวขบวนรถ ประกอบด้วย รถดับเพลิงและกู้ภัยของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จำนวน 21 คัน รถสายตรวจของสำนักเทศกิจ จำนวน 8 คัน รถหน่วยแพทย์กู้ชีวิตของสำนักการแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 9 คัน รถตรวจการณ์ของสำนักการจราจรและขนส่ง จำนวน 1 คัน รถหน่วยซ่อมเคลื่อนที่เร็วของกองโรงงานช่างกล จำนวน 1 คัน รถสายตรวจ 191 ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 1 คัน รถบรรเทาสาธารณภัยของ อปพร. จำนวน 2 คัน รวมจำนวน 43 คัน เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนชาว กทม. ที่อาจเกิดขึ้น
"เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี จะเป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันนานหลายวัน หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สถานบันเทิงต่าง ๆ มีการจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับเทศกาลปีใหม่ และประชาชนจะออกมาท่องเที่ยวและพักผ่อนตามสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงและเป็นสาเหตุทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย รวมทั้งมีประชาชนเดินทางกลับไปเยี่ยมญาติและพักผ่อนต่างจังหวัด หากทิ้งบ้านเรือนไว้โดยไม่มีผู้ดูแล และไม่ระมัดระวังอาจเกิดอัคคีภัยขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีสภาพอากาศแห้งแล้งมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้หญ้า และอาจลุกลามอาคารบ้านเรือน ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กรุงเทพมหานครจึงได้ออกประกาศ เรื่อง การป้องกันอัคคีภัยในเคหสถานและการป้องกันอัคคีภัยในอาคารสถานบริการ เพื่อแจ้งเตือนและขอความร่วมมือประชาชนให้ระมัดระวัง เตรียมการป้องกันและหลีกเลี่ยงอันตรายจากการเกิดอัคคีภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่และฤดูหนาว" นายสกลธี กล่าว
นายสกลธี กล่าวว่า กทม.กำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยและกำชับให้สำนักงานเขต และหน่วยงานต่างๆ ของกทม. ร่วมกันดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 63 ตามมาตรการป้องกันอัคคีภัยและสาธารณภัย ดูแลความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มงวด ประกอบด้วย 5 มาตรการ ได้แก่ 1. มาตรการป้องกันอัคคีภัย โดยตรวจสอบสถานที่ที่เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นประจำ และจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ อาทิ สถานบริการ สถานบันเทิง อาคารสูง บริเวณใต้สะพานข้ามทางแยกต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งจัดทำแผนในการลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อป้องกันมิให้มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นอีก 2. มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ภายใต้สโลแกน “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ เดินทางอย่างปลอดภัย 3. มาตรการดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานที่จัดงานเทศกาลปีใหม่ โดยตรวจสอบความปลอดภัยบริเวณสถานที่จัดงานต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยสูงสุด 4. มาตรการดูแลสุขภาพอนามัย โดยร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสิ่งของในกระเช้าของขวัญตามห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ ว่ามีสิ่งของหรืออาหารที่ใกล้จะหมดอายุมาจำหน่ายให้กับประชาชนหรือไม่ 5. มาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย
ทั้งนี้ กทม.ได้เตรียมความพร้อมรถดับเพลิงและกู้ภัย รถหน่วยแพทย์กู้ชีวิต พร้อมเจ้าหน้าที่ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ สำนักการแพทย์ หน่วยทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในเขตพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจัดรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 81 จุด ณ สถานีดับเพลิงหลัก จำนวน 44 จุด และจุดเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จำนวน 37 จุด พร้อมทั้งจุดบริการประชาชนบริเวณถนนเข้า - ออกเมือง เพื่อให้บริการตรวจสอบสภาพรถ และตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้ประชาชนฟรี ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.62-2 ม.ค.63 รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานครในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2563 ขึ้น ณ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ตลอดจนติดตามผลการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจและอบอุ่นใจในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุสาธารณภัย เพื่อขอความช่วยเหลือ โทร. 199 และสายด่วน 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่แนะนำเจ้าของอาคารสถานบันเทิงและสถานบริการ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรณรงค์การป้องกันอัคคีภัยและสาธารณภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2563 โดยตรวจความปลอดภัยบริเวณโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 บริเวณภายในศูนย์การค้า และจุดกระเช้าของขวัญ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน
ดร.วัลลภ กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. - ม.ค. เป็นช่วงที่ประชาชนมีการจัดงานรื่นเริงในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบริการต่างๆ มีผู้เข้าใช้บริการจำนวนมาก รวมทั้งมีการใช้วัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือวัสดุตกแต่งอาคาร หากประมาทอาจเกิดอัคคีภัยได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและบรรเทาภยันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดจากการใช้อาคาร กรุงเทพมหานครจึงกำหนดมาตรการให้เจ้าของอาคารและสถานบริการดำเนินการตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย เช่น ถังดับเพลิง ระบบสัญญาณเตือนภัยระบบไฟฟ้าสำรองให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ป้ายบอกเส้นทางหนีไฟ ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจน ไม่มีสิ่งของกีดขวางเส้นทางหนีไฟ มีแบบแปลนแสดงตำแหน่งของห้องต่างๆ ที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงหรือทางหนีไฟจัดให้มีช่องทางที่เปิดออกสู่ประตูภายนอกได้อย่างทันที ทั้งนี้หากประชาชนเข้าไปพักผ่อนตามสถานบริการต่างๆ ควรเป็นสถานที่ที่มีผู้ใช้บริการที่ไม่แออัด มีทางเข้าและออกได้อย่างสะดวก สังเกตเส้นทางหนีไฟ ประตูฉุกเฉิน และภายในอาคารสถานที่จะต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิงที่ได้มาตรฐานและวัสดุภายในต้องเป็นวัสดุทนไฟไม่ติดไฟง่าย รวมทั้งหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการจัดกิจกรรมหรือมีการเก็บวัสดุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย
นอกจากนี้ยังต้องมีการตรวจสอบความพร้อมการใช้งานของระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยในอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารขนาดใหญ่ อาคารสาธารณะ อาคารอยู่อาศัยรวม ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ภัตตาคาร และสำนักงาน ได้แก่ ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ เช่น สปริงเกอร์ ระบบการจ่ายน้ำสำหรับดับเพลิงภายในอาคาร ระบบระบายควันและควบคุมการแพร่กระจายควัน การติดตั้งถังดับเพลิงแบบยกหิ้วที่ครอบคลุมพื้นที่และเหมาะสมกับประเภทของไฟ บันไดหนีไฟและทางหนีไฟ เครื่องหมายและไฟป้ายทางออกฉุกเฉิน โดยให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งปรับปรุงไม่ให้ต้นไม้หรือธัญพืชที่ตนปลูกไว้หรือที่ขึ้นเองเหี่ยวแห้งหรือมีสภาพรกรุงรัง หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอยในบริเวณที่ดินของตน งดการเผาซากวัชพืชหลังการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร ขยะมูลฝอย การเผาหญ้า เศษกระดาษในชุมชน และบริเวณริมถนนสองข้างทาง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนเนื่องจากกลุ่มควันจากการเผาไหม้บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะ