สธ.ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง หมอสูติทะเลาะพยาบาล ปมจัดคิวใช้ห้องผ่าตัด

สธ.สั่งตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง หมอสูติทะเลาะพยาบาล ปมจัดคิวใช้ห้องผ่าตัด จนเกิดคิวแทรก เร่งหาข้อสรุปใน 1 สัปดาห์ พร้อมตั้งกก.สอบวินัยให้เสร็จใน 1 เดือน สั่งย้ายแผนกพยาบาล โยกหมอมา สสจ. เผยเบื้องต้นพบไม่ปฏิบัติตามกฎ พร้อมเชิญวิชาชีพที่เกี่ยวข้องถกระบบการให้บริการ

วันนี้ (19 พ.ย.) นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแพทย์หญิงมีปากเสียงกับพยาบาล ใน รพ.อำนาจเจริญ เนื่องจากปัญหาการจัดคิวห้องผ่าตัด ทำให้เกิดการแซงคิวการใช้ห้องผ่าตัด ว่า นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. ได้สั่งการเร่งด่วนให้ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 10 ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดคิวการผ่าตัดของ รพ.อำนาจเจริญ โดยในวันศุกร์นี้จะประชุมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยผู้แทน/ผู้ทรงคุณวุฒิจากสภาการพยาบาล แพทยสภา สมาคมแพทย์ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการกลุ่มเสริมสร้างวินัย ศูนย์สันติวิธี กองการพยาบาล ประธานแผนพัฒนาระบบบริการสาขาสูตินรีแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อตั้งคณะกรรมการบูรณาการการทำงานของสหวิชาชีพ ร่วมกันวางมาตรการและระบบการให้บริการ เป็นมาตรฐานการจัดบริการในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพบริการประชาชน ลดความขัดแย้ง

นพ.ยงยศ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำนาจเจริญว่า ได้ประชุมคณะกรรมการไกล่เกลี่ยของโรงพยาบาลอำนาจเจริญเพื่อสรุปข้อเท็จจริงเบื้องต้น และทบทวนแนวทางการดำเนินงานของห้องผ่าตัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการแล้ว

ด้าน นพ.ประภาส วีระพล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) อำนาจเจริญ กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 1 สัปดาห์และตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมอสูติเจ้าของเคสที่ถูกแทรกคิว หมอสูติที่แทรกคิวผ่าตัด และพยาบาลที่จัดคิว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ยืนยันปกติทุกรพ.มีระเบียบการใช้ห้องผ่าตัดอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการไม่ปฎิบัติตามกฎ ทราบว่าห้องผ่าตัดคลอดปกติ คือ ห้องผ่าตัด 5 สำหรับแผนกสูติ และห้องผ่าตัดฉุกเฉิน 7 ที่ทุกแผนกสามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ที่เกิดขึ้นเพราะไม่มีการสื่อสาร และทำความเข้าใจกัน และนำเคสอื่นมาแทรกในห้องที่วางไว้สำหรับฉุกเฉิน เมื่อแทรกมาเข้าย่อมเกิดความไม่พอใจ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ได้มีการย้ายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพื่อให้เกิดการตรวจสอบ สร้างความโปร่งใส เป็นไปตามข้อเท็จจริง โดยให้พยาบาลย้ายจากห้องผ่าตัดมาอยู่แผนกผู้ป่วยนอก หมอสูติที่ทะเลาะและมีปากเสียงให้มาอยู่ที่ สสจ.