xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์ข้อมูลอนุรักษ์ ‘อยุธยา’ ต้นแบบการอนุรักษ์โบราณวัตถุ-โบราณสถาน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการอาคาร "ศูนย์ข้อมูลการอนุรักษ์นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา" จ.พระนครศรีอยุธยา กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรได้เนรมิตให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทุกขั้นตอนด้านการอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ และจิตรกรรมฝาผนัง ในพระอารามสำคัญๆ ในพื้นที่มรดกโลกและนอกเขตอุทยานประวัติศาสตร์ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชน นักท่องเที่ยวที่เข้าชม ได้มีโอกาสเรียนรู้ขั้นตอนการอนุรักษ์ของช่างว่าดำเนินการอย่างไรบ้าง

น.ส. สุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เล่าว่า ภายในอาคารศูนย์ข้อมูลการอนุรักษ์ฯ จัดนิทรรศการถาวร 5 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 มรดกโลกพระนครศรีอยุธยา ส่วนที่ 2 ประวัติการอนุรักษ์โบราณสถานพระนครศรีอยุธยา ส่วนที่ 3 นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยากับการอนุรักษ์และพัฒนา ส่วนที่ 4 งานอนุรักษ์ประเภทต่างๆ และส่วนที่ 5 นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยากับการพัฒนาในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในศูนย์ข้อมูลการอนุรักษ์ฯได้ใช้เทคโนโลยีนำเสนอสุดไฮเทค ประกอบด้วยแผนที่ แผนผังจำลองภาพโบราณสถานของอยุธยา จำลองภาพการอนุรักษ์โบราณสถานประเภทต่างๆ ทำให้ผู้ชมเข้าใจง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นองค์ความรู้ก่อนไปชมสถานที่จริง

อย่างนิทรรศการนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยากับการอนุรักษ์และพัฒนา จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคำนิยาม การสงวนรักษา การปฏิสังขรณ์ การบูรณะ สิ่งเหล่านี้คือหลักการที่กรมศิลปากรได้ยึดถือมาตลอด เพื่อให้เห็นว่า การสงวนรักษา การปฏิสังขรณ์รูปแบบไหน การบูรณะแบบไหน ซึ่งในนิทรรศการได้มีการยกตัวอย่างสำคัญๆ ขึ้นมา 4 แห่ง เช่น พระราชวังโบราณพระศรีสรรเพชร วัดภูเขาทอง วัดไชยวัฒนาราม วัดกระทิง ที่ผ่านการอนุรักษ์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ด้วยว่า โบราณสถาน โบราณวัตถุ ได้มีการบูรณะเมื่อไหร่ ตรงจุดไหนบ้าง รวมถึงวิวัฒนาการการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ด้วย

นอกจากนี้ ภายในนิทรรศการนำเสนอการอนุรักษ์ออกเป็น 4 ประเภท คือ ไม้ อิฐ ปูนปั้น จิตรกรรม อย่างวิธีการอนุรักษ์งานไม้ จะเสนอยกตัวอย่างขั้นตอนการบูรณะพลับพลาตรีมุข ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปีให้กลับมาสวยงาม ส่วนอิฐ จะยกตัวอย่างวัดกุฎีดาว จะจำลองโมเดล โดยบรรยากาศในการทำงานของช่างอนุรักษ์ว่าดำเนินการอย่างไรบ้าง ส่วน ปูนปั้น โดยจำลองให้เห็นภาพช่างกำลังนำเอาปูนปั้นมาซ่อมสิงห์ และปูนปั้นหน้าบันวัดเศวตรฉัตร ตลอดจนการบูรณะจิตกรรมฝาผนัง อย่างไรก็ตาม ทุกขั้นตอนการอนุรักษ์ทั้ง 4 ประเภท ชี้ให้เห็นถึงการทำงานของช่างว่าละเอียดประณีตเพียงใด เพื่ออนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุของบรรพบุรุษที่สร้างไว้อย่างงดงามและเป็นมรดกคนรุ่นหลังได้ศึกษาและเกิดความภาคภูมิใจ

พร้อมกันนี้ ยังมีมุมการจัดแสดงนิทรรศการที่กล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีคุณูปการในการอนุรักษ์โบราณสถานใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยบอกเล่าเหตุการณ์ที่น่าสนใจ อาทิ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงริเริ่มทำการอนุรักษ์โบราณสถานด้วยการนำเทคนิคสมัยใหม่เข้ามาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลต่อการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ปฏิบัติงานด้านอนุรักษ์ ของกรมศิลปากร อีกทั้ง เมื่อครั้งพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินไปวัดราชบูรณะ ได้พระราชทานแนวคิดหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการอนุรักษ์เครื่องทอง อีกทั้งทรงให้มีการลำดับที่มาที่ไปของโบราณวัตถุที่ค้นพบ ว่า โบราณวัตถุมาจากจังหวัดไหน ให้นำไปจัดแสดงที่จังหวัดนั้นๆ จึงเกิดพิพิธภัณฑ์ประจำเมือง ประจำจังหวัด หลายแห่งทั่วประเทศ ขณะที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสด็จฯ มาอยุธยาหลายครั้ง ซึ่งพระองค์ ทรงยึดแนวทาง สืบสาน รักษา ต่อยอด จาก ในหลวง รัชกาลที่ 9 ไว้ด้วย

"ศูนย์ข้อมูลการอนุรักษ์ฯ เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นคลังข้อมูล ทำให้เราไม่ลืมวิธีการ ขั้นตอนในการอนุรักษ์ในแต่ละยุคแต่ละสมัย ซึ่งจะบอกว่าขั้นตอนการอนุรักษ์ทำอย่างไรบ้าง เหมือนเป็น เคเอ็ม ในที่สาธารณะเพื่อให้คนได้เข้ามาเรียนรู้ ความรู้ด้านการอนุรักษ์ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้ งานด้านการอนุรักษ์ไม่มีความว่าเสร็จ ต้องตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าตรงจุดไหนชำรุดทรุดโทรม ก็ต้องคอยอนุรักษ์ให้งดงามดั่งเดิม สมัยก่อนความรู้ด้านการอนุรักษ์หากไม่มีทายาทสืบทอดอาจจะล้มหายตายจากไปกับตัวช่างอนุรักษ์ "

น.ส.สุกัญญา พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า ศูนย์ข้อมูลนี้ นับเป็นคลังข้อมูลการอนุรักษ์แห่งแรกในไทย ที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุด ณ ปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้เข้าใจว่ากว่าจะเป็นนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน และกว่าจะได้รับการขึ้นเป็นทะเบียนมรดกโลก ได้ผ่านการอนุรักษ์มาอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้ถึงการสงวนรักษา การปฏิสังขรณ์ การบูรณะ งานฝีมือช่าง ซึ่งเป็นหลักการที่กรมศิลปากรได้ยึดถือมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นช่าง นักเรียน นักศึกษา ท่านที่สนใจด้านอนุรักษ์ควรหาเวลามาเก็บเกี่ยวความรู้ซึ่งบางอย่างไม่มีในตำรา

สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมวันพุธถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์-วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 035242286














กำลังโหลดความคิดเห็น