รศ.ดร.นพ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
เมื่อมีชีวิตน้อย ๆ อยู่ในครรภ์ ความสุขก็มาเยือนว่าที่คุณแม่และทุกคนในครอบครัว และสิ่งที่มักจะทำให้สตรีตั้งครรภ์ทุกคนมีความกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ เรื่องการคลอด โดยเฉพาะวิธีการคลอด ว่าจะ “คลอดเองตามธรรมชาติ” หรือจะ “ผ่าตัดคลอด"ซึ่งการผ่าตัดคลอดนั้นเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์ที่มีขึ้นเพื่อให้สามารถช่วยให้คุณแม่และลูกในท้องมีความปลอดภัยจากการคลอดมากขึ้นในกรณีที่เกิดปัญหาระหว่างตั้งครรภ์หรือการคลอด
อย่างไรก็ตาม พบว่าในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการผ่าตัดคลอดได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่นั้นเป็นการผ่าตัดคลอดโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่เหมาะสมซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยทั้งด้านคุณแม่และคุณหมอ เช่น ความเข้าใจผิดและความกลัวเกี่ยวกับการคลอดตามธรรมชาติ ความเชื่อถือเรื่องโชคลางและฤกษ์ยามในการเกิดของลูก ความสะดวกสบายในเรื่องการจัดการเวลา เป็นต้น
ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าคลอด
ถึงแม้การผ่าตัดคลอดอาจจะดูเหมือนเป็นทางเลือกที่อาจจะตอบโจทย์ของคุณแม่บางส่วนได้ แต่การผ่าตัดคลอดนั้น สามารถส่งผลเสียต่างๆ ต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้มากกว่าที่หลายคนคิดอย่างมากมายดังนี้
- ผลเสียในระยะสั้น เช่น การเสียเลือดหรือการติดเชื้อจากการผ่าตัด ลูกอาจมีปัญหาด้านการหายใจ มีการพัฒนาภูมิคุ้มกันที่ไม่ดีเท่าที่ควร เริ่มกินนมแม่ได้ช้า เป็นต้น
- ผลเสียในระยะยาว เช่น การเกิดพังผืดในช่องท้อง ปัญหารกเกาะลึกผิดปกติในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนลูกนั้นก็จะมีความเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ โรคอ้วน โรคเบาหวาน เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ดังนั้น ทุกคนควรตระหนักว่าการผ่าตัดคลอดนั้น ควรทำในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เท่านั้น เช่น ทารกอยู่ในท่าที่ผิดปกติ การเต้นของหัวใจทารกผิดปกติ ภาวะรกเกาะต่ำ หรือ แม่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เป็นต้น ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป
คลอดเองทางช่องคลอด มีผลดีอย่างไร
การคลอดเองทางช่องคลอดนั้น เป็นเรื่องที่ธรรมชาติได้สรรสร้างมาเป็นอย่างดี ให้มีความเหมาะสม สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ถึงแม้การคลอดเองนั้น คุณแม่จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดและใช้เวลานาน แต่ก็คุ้มค่ากับการที่ได้ลูกน้อยที่แข็งแรงและมีความพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างมีสุขภาพดีต่อไปในอนาคต
คุณแม่ที่คลอดทางช่องคลอด จะสามารถฟื้นตัวได้เร็ว เจ็บแผลน้อย พร้อมที่จะดูแลลูกได้โดยเร็วหลังคลอด ส่วนลูกน้อยนั้น จะผ่านกระบวนการต่างๆ ตามธรรมชาติระหว่างการคลอด ทั้งด้านกายภาพ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการได้รับแบคทีเรียที่มีประโยชน์เพื่อกระตุ้นการพัฒนาการของภูมิคุ้มกัน เป็นต้น รวมทั้งสามารถเริ่มดูดนมแม่ได้อย่างรวดเร็วหลังคลอด
การที่คุณแม่ได้โอบกอดลูกน้อยและให้ลูกได้ดูดนมแม่เกือบจะทันทีหลังคลอด เป็นความสุขและประสบการณ์ที่ไม่สามารถมีอะไรทดแทนได้และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยสร้างความผูกพันที่ดีระหว่างกันไปตลอดชีวิตทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาความเชื่อและความเข้าใจผิดต่าง ๆ ควรต้องได้รับการแก้ไข ควรมีการให้ความรู้ เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์เกี่ยวกับวิธีการคลอดที่เหมาะสม โดยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและอยากให้ว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อย่าเพิ่งวิตกกับวิธีการคลอดไปก่อนล่วงหน้าสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำ คือฝากท้องกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานไปพบแพทย์ตามนัดทุดครั้งเพื่อติดตามพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์และในกรณีที่พบความผิดปกติหรือข้อบ่งชี้ใด ๆ ทางการแพทย์ จะได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงทีส่วนเรื่องการคลอดนั้น แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและพูดคุย ตัดสินใจร่วมกันกับท่านว่าวิธีคลอดแบบใดจึงจะปลอดภัยที่สุดทั้งกับตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ที่จะลืมตาดูโลก
*******
กิจกรรมดี ๆ ที่ศิริราช
#จัดให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่อง "สูงวัย หลับสบาย ใจเป็นสุข” ในวันที่ 4 ตุลาคม 2562 เวลา 12.30- 15.30 น. ณ ห้องประชุมราชปนัดดาสิรินธร อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 1 รพ.ศิริราช ขอเชิญผู้สนใจเข้าฟังบรรยายและร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนและสอบถามเพิ่มเติม โทร. 09 5738 7382 (นิภาพร ศุภประเสริฐ) (ในวันและเวลาราชการ)