“อนุทิน” เผยปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้นมีอยู่ในร่างกฎหมายใหม่ที่เสนอ หากผ่านสามารถเริ่มได้ แต่ประชาชนต้องเข้าใจสรรพคุณ ไม่นำมาใช้ในทางที่ผิด นำมาใช้ดูแลสุขภาพตัวเองได้ แนะคนใต้ดินมารับการรักษาอย่างถูกต้อง เหตุเปิดเสรีกัญชาทางการแพทย์มาครึ่งทางแล้ว สามารถรับบริการได้ คงไม่ต้องนิรโทษใหม่ ด้าน “รสนา” แนะดึงคนใต้ดินพัฒนาสายพันธุ์กัญชามาร่วมมือ เปิดโอกาส “หมอแผนไทย” ปลูกกัญชารักษาผู้ป่วย ระหว่างรอ กม.ปลูกบ้าน 6 ต้น
วันนี้ (25 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเดินหน้านโยบายกัญชาบ้านละ 6 ต้น ภายในงานมอบน้ำมันเดชาให้แก่ รพ.ศรีประจันต์ ว่าขณะนี้มีการร่วมมือปลูกกัญชาทางการแพทย์ระหว่างกรมการแพทย์ ม.แม่โจ้ และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งเป็นแบบอินทรีย์ทั้งหมด เป็นรูปแบบความร่วมมือ และจะเกิดการบันทึกข้อมูลตั้งแต่การปลูก การรักษาให้ผลอย่างไร จะเริ่มเป็นศาสตร์ที่มีการค้นคว้าวิจัย เมื่อทำสิ่งเหล่านี้ให้กระจายไปสู่ชาวบ้านให้เข้าใจสรรพคุณ รู้การใช้ในทางที่ดี เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่เอามาสูบ หรือเอามาใช้สันทนาการ มีการใช้อย่างปลอดภัย 6 ต้นทุกบ้านก็จะเกิดขึ้นได้ แล้วต่อไปถ้าเข้าใจมากขึ้นจะขยายออกไปกี่ต้นก็สามารถทำได้ หากประชาชนมีความเข้าใจจริงๆ เพราะคงไม่มีใครต้านทานความต้องการของประชาชนได้ และกัญชาก็จะแปรสภาพจากสิ่งเสพติด สารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท มาเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์อย่างมาก กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างรายได้ แต่คงไม่ถึงขั้นกิโลกรัมละ 1-2 แสนบาท เพราะทุกคนปลูกได้ ราคาก็ลดลง แต่จะเป็นต้นทุนในการดูแลสุขภาพ
“ผมมีหน้าที่ผลักดันกฎหมาย ซึ่งกฎหมายใหม่คือ ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ. สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... ของพรรคภูมิใจไทยที่ได้เสนอเข้าสภาแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งจะสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีเรื่องของ 6 ต้นอยู่ในนั้นเรียบร้อย หากกฎหมายผ่านก็สามารถเริ่มได้ แต่สำคัญคือต้องใช้ให้ปลอดภัย คนมีความเข้าใจ สิ่งเหล่านี้คือการทำโดยได้รับกำลังใจจากทุกท่าน พูดไปแล้วก็ต้องทำ และได้รับความรู้ความมั่นใจมากขึ้นว่ากัญชาเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งตอนนี้ถือว่าเสรีทางการแพทย์มาครึ่งทางแล้ว อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดถือว่าในส่วนของนโยบายทำหน้าที่หมดแล้ว เพราะได้ทำกฎหมาย และผลักดันกฎหมายไป 2 สัปดาห์แล้ว ถือว่าจบแล้ว” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนข้อเสนอเรื่องขยายเวลานิรโทษกรรม พร้อมนำไปพิจารณา แต่อยากบอกว่าการแอบใช้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และตอนนี้มีช่องทางทำให้ถูกกฎหมายคือ ไปที่โรงพยาบาลให้แพทย์วินิจฉัย อย่าไปวินิจฉัยแทนแพทย์ ในทางการแพทย์แผนไทยก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกผลิตออกมาใช้ แต่ต้องใช้หมอพื้นบ้านและแพทย์แผนไทยที่ผ่านการอบรมและได้รับใบอนุญาตเป็นผู้สั่งใช้ นี่คือ กัญชาเสรีทางการแพทย์ แต่ไม่ใช่เสรีสำหรับประชาชนทั่วไปจะนำมาใช้ได้ เพราะหากใช้ไม่เป็นก็อาจออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทได้ ประชาชนต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนจึงจะไปสู่การปลูกบ้านละ 6 ต้นได้ การนิรโทษกรรมคงไม่สำคัญแล้ว หากเราเข้าถึงการรักษาสารสกัดกัญชาถูกต้อง
เมื่อถามว่าจะพิจารณาอย่างไรว่า ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า พิจารณาจากข้อมูลการรักษาด้วยสารสกัดกัญชา ซึ่งตอนนี้มีการเปิดคลินิก ผลผลิตก็กระจายไปยัง รพ.ต่างๆ และมีการขอปลูกกัญชาที่เป็นเมดิคัลเกรด ทั้ง ม.แม่โจ้ ขณะนี้มีการขออนุญาตปลูกอีก เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ม.ขอนแก่น และเรายังมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทำหน้าที่ในการให้ความรู้ตรงนี้ได้
น.ส.รสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวว่า ตนขอเสนอให้ขยายเวลานิรโทษกรรมครอบครองกัญชา เพื่อให้คนใต้ดินมาแสดงตัว เพราะยังคงมีการใช้และศึกษาปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์กัญชากันอยู่ การนิรโทษและดึงคนเหล่านี้มาร่วมจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมาก ส่วนที่มีการเสนอกฎหมายเพื่อให้ปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้น มองว่าระหว่างรอกฎหมาย ควรเริ่มต้นคือ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้านที่มีความรู้ในการใช้กัญชา ควรให้กลุ่มคนเหล่านี้สามารถปลูกเพื่อรักษาผู้ป่วยเฉพาะรายของตนเองได้ เพราะหากขาดต้นน้ำตรงนี้ กลางน้ำ ปลายน้ำก็จะไม่เกิด แล้วจะไปรอหวังพึ่งของกลางจาก ป.ป.ส.ไม่ได้ เพราะของกลางก็มีการปนเปื้อน แต่แพทย์แผนไทยตอนนี้มีประกาศแล้ว 16 ตำรับ หากไม่มีการปลูกหมอแผนไทยก็ไม่มีวัตถุดิบใช้ หรือเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ซึ่งการให้แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้านปลูกกัญชา ไม่น่ามีปัญหา เพราะมีใบประกอบวิชาชีพควบคุม หากทำผิดก็สามารถยึดหรือเพิกถอนได้ คงไม่มีใครกล้าทำผิด เพราะในอดีตก่อนมี พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 แพทย์แผนไทยก็สามารถปลูกได้ 3 ต้น