xs
xsm
sm
md
lg

"กินเจ" เลี่ยงผักนอกฤดู เสี่ยงเจอสารพิษ เผย 10 ผักยังเจอปนเปื้อนสูง หนุนแบน 3 สารเคมี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรมอนามัย ห่วงกินเจเจอผักปนเปื้อนสารเคมี ย้ำเลี่ยงผักนอกฤดูกาล เสี่ยงมีสารเคมีมากกว่า เผย 10 ผักสดยังคงพบสารเคมีปนเปื้อนสูง ยัน สธ.หนุนแบนใช้ 3 สารพิษการเกษตร ห่วงกระทบต่อแม่และทารกแรกเกิด แนะล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินและปรุง

วันนี้ (24 ก.ย.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงช่วงเทศกาลกินเจที่มีผักเป็นส่วนประกอบจำนวนมา แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ว่า ช่วงเทศกาลกินเจนี้ มีการจำหน่ายอาหารเจที่ปรุงจากผักเป็นจำนวนมาก จึงต้องเฝ้าระวังความสะอาดปลอดภัยของสารเคมีในผักให้มากขึ้น สำหรับผู้บริโภคที่ปรุงอาหารเจกินเองในครอบครัว ช่วงนี้ไม่ควรกินผักนอกฤดูกาล เนื่องจากมีแนวโน้มของการใช้สารเคมีมากกว่าผักตามฤดูกาล ก่อให้เกิดปัญหาสารพิษตกค้างและเป็นอันตรายมาก เมื่อได้รับสารนี้ในปริมาณมากจะทำให้เวียนศีรษะ หน้ามืด ท้องร่วง อาจเกิดหัวใจวายและเสียชีวิตได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยๆ ค่อยๆ สะสมในร่างกายจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งในระยะยาว

"ขอความร่วมมือเกษตรกรงดใช้สารเคมี เนื่องจากทุกวันนี้การเพาะปลูกของในหลายพื้นที่ ยังคงมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและยังมีการตรวจพบการตกค้างของสารเคมีอยู่ในพืชผักอยู่เสมอ โดยเฉพาะผักสด 10 ชนิด ที่จำหน่ายในท้องตลาด พบว่า มีการตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในปริมาณที่สูง ได้แก่ กวางตุ้ง คะน้า ถั่วฝักยาว พริก แตงกวา กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี ผักบุ้งจีน มะเขือ และผักชี" พญ.พรรณพิมล กล่าว

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สนับสนุนการยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ก็มีแนวทางชัดเจนในการยกเลิกใช้ เพื่อลดผลกระทบสุขภาพของประชาชน เกษตรกร และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสารเคมีทั้ง 3 ชนิด มีการยกเลิกในหลายๆ ประเทศอย่างถาวร สำหรับประเทศไทย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยมหิดล พบการตกค้างของพาราควอตในสะดือทารกแรกเกิดและซีรั่มของแม่มากถึงร้อยละ 20 พบในขี้เทาเด็กทารกแรกเกิดสูงถึงร้อยละ 54.7 ส่วนคลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต พบในซีรั่มของแม่และสะดือทารกเด็กแรกเกิดสูงถึงร้อยละ 50.7 และพบการปนเปื้อนในน้ำนมแม่ร้อยละ 41.3 นอกจากนี้ ยังพบการตกค้างของพาราควอตในพืชผักอีกด้วย

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ก่อนกินหรือนำผักมาปรุงอาหาร ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ให้ล้างผ่านน้ำก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือแช่ในน้ำผสมเกลืออัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูอัตราส่วนครึ่งถ้วยตวงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต (เบคกิงโซดา) อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง สำหรับผักบางชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบหรือฝักมากเกินไปล้างน้ำหลาย ๆ ครั้ง และคลี่ใบถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านอย่างน้อย 2 นาที เพื่อความปลอดภัยและลดการปนเปื้อนของสารเคมี


กำลังโหลดความคิดเห็น