xs
xsm
sm
md
lg

คร.ชี้แอลกอฮอล์ 418 มก.% ในร่าง "ลันลาเบล" สูงมาก ถึงตายได้ เหตุกดระบบประสาท ไม่หายใจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรมควบคุมโรค ชี้แอลกอฮอล์ในร่าง "ลันลาเบล" สูง 418 มก.เปอร์เซ็นต์ ทำให้ตายได้ อาจทำให้สำลัก หรือกดระบบประสาท จนหมดสติ ไม่หายใจ ชี้ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างแต่ละคนต่างกันไปตามชนิดเหล้า พฤติกรรมการดื่ม ลักษณะของแต่ละคน ชี้หากถึง 150 มก.ทำสูญเสียการเคลื่อนไหว 200 มก.ทำง่วงซึม แนะวิธีปฐมพยาบาลคนเมา

วันนี้ (23 ก.ย.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีผลชันสูตร น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลันลาเบล พริตตี้สาววัย 25 ปี ที่เสียชีวิตจากการดื่มสุรา (Alcohol intoxication) โดยตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่พบสารเสพติดและดีเอ็นเอของผู้อื่นในร่างกาย ว่า ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดถึง 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ถือว่าสูงมาก ซึ่งการมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงๆ อาจทำให้เสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณแอลกอฮอล์จะผันแปรไปตามปัจจัยต่างๆ ทั้งชนิดสุรา ลักษณะของคน และพฤติกรรมการดื่ม เช่น ดื่มแบบเพียวๆ ดื่มแบบผสม ดื่มตอนท้องว่างดูดซึมได้เร็ว หากกินอาหารด้วยก็จะขัดขวางการดูดซึม หากค่อยๆ จิบก็มีจะมีเวลาให้ร่างกายกำจัดแอลกอฮอล์ออกไป ซึ่งเฉลี่ยจะกำจัดได้ประมาณ 15-20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อชั่วโมง แต่ถ้าดื่มรวดเดียวเร็วๆ แบบแข่งกันดื่มก็ทำให้มีแอลกอฮอล์สูงได้ และก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละคนอีก เช่น คนอ้วนคนผอม คนดื่มบ่อย คนนานๆ ดื่มที ก็แตกต่างกัน ร่างกายแต่ละคนก็กำจัดแอลกอฮอล์ได้เร็วช้าไม่เท่ากัน

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า หากเทียบปริมาณแอลกอฮอล์กับการดื่ม ที่พอเป็นเกณฑ์คือ 1 ดื่มมาตรฐานหรือ 1 หน่วยจะเท่ากับเบียร์ 1 กระป๋อง หรือไวน์ 1 แก้ว ปริมาณ 100 ซีซี หรือเหล้า 1 แก้ว 30 ซีซี ดังนั้น ถ้าดื่มประมาณ 2 หน่วยจะมีค่าประมาณเกือบ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หากขับยานพาหนะถือว่าผิดกฎหมาย แต่หากไม่ได้ขับรถก็ไม่เป็นอะไร ซึ่งประมาณ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เรียกว่าอยู่ในอาการครึกครื้น สนุกสนานร่าเริง แต่หากดื่มถึง 4 หน่วย ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดจะขึ้นมาถึง 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเริ่มมีผลเสีย จะเพิ่มเรื่องของพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การเกิดอุบัติเหตุง่าย มีพฤติกรรมรุนแรง เพราะขาดการยับยั้งชั่งใจ หากดื่มไปถึง 12 หน่วย ระดับแอลกอฮอล์อาจทะลุ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะเริ่มสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว การพูดจา อ้อแอ้ เซไปเซมา เมื่อดื่มถึง 16 หน่วย ระดับแอลกอฮอล์อาจเกิน 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะเกิดปัญหาง่วงซึม และเมื่อดื่มถึง 24 - 32 หน่วย จะเทียบเท่าเหล้าที่มีความเข้มข้นมากกว่า 1 แบน ทำให้มีปัญหาเรื่องของหมดสติได้ และอาจทำให้เกิดการเสียชีวิต

"การดื่มเหล้าแล้วทำให้เสียชีวิต หลักๆ เมื่อแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงมาก มักจะเกิดการสำลักหรืออาเจียน หากปฐมพยาบาลไม่เหมาะสม โดยปล่อยนอนราบ หมดสติ ไม่ได้ปลุก หรือไม่ได้จับนอนตะแคง มีโอกาสสำลักเข้าไปอุดกั้นทางเดินหายใจ อีกส่วนคือแอลกอฮอล์ไปกดระบบประสาท ทำให้หมดสติ บางครั้งทำให้ตัวการหายใจกับระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวไปด้วยก็เสียชีวิตได้ เวลาเจอคนเมาจึงต้องพยายามปลุกให้ตื่น อย่าให้นอนหลับ ส่วนความเชื่อผิดๆ เอาไปอาบน้ำ ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะอุณหภูมิจะยิ่งต่ำลง และห้ามดื่มกาแฟที่ส่งผลต่อระบบประสาทด้วย" นพ.สุวรรณชัย กล่าวและว่า วิธีช่วย คือ ทำให้รู้สติไว้ตลอด เราจะรู้ว่าเขาหายใจอยู่หรือไม่ รู้สึกตัวหรือไม่ ถ้ารู้สึกตัวไม่สำลัก ก็ให้ดื่มน้ำมากๆ แต่ต้องระวังสำลัก ซึ่งจะช่วยเจือจางแอลกอฮอล์ในระบบทางเดินอาหารและกระแสโลหิต ถ้าเริ่มหมดสติต้องดูว่าหายใจหรือไม่ ถ้าไม่หายใจหากมีความสามารถก็ทำการกู้ชีพอย่างถูกวิธี หากไม่รู้ต้องหาคนช่วยหรือโทร. 1669 และคอยระวังว่า มีภาวะสำลักหรือไม่ หายใจอยู่หรือไม่ อย่าทิ้งตัวคนเมาหมดสติไว้ตามลำพัง


กำลังโหลดความคิดเห็น