xs
xsm
sm
md
lg

5 ข้อควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากให้ลูกคุณอ้วน /ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ใครหลายคนคงแอบอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กๆ ตัวอ้วนจ้ำม่ำ ดูน่าหยิกน่าหยอก แต่ถึงอย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรปล่อยให้ความน่ารักน่าเอ็นดูจากความอ้วนของลูกมาบดบังความน่ากลัวของภัยร้ายที่มาพร้อมกับน้ำหนักส่วนเกินนี้
ความอ้วนเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ ที่ทำให้คนต้องประสบกับปัญหาสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินชีวิตตามปกติ ความอ้วนเกิดจากการที่ร่างกายมีการสะสมไขมันส่วนเกินไปเก็บไว้ในส่วนต่างๆของร่างกายในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีจากรับเอาไขมันเข้าสู่ร่างกายมากกว่าที่จำเป็นต้องใช้งาน ซึ่งไขมันส่วนเกินนี้เองที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมา
ปัญหาสุขภาพที่พบในคนอ้วนมักเกี่ยวโยงกับระบบหลอดเลือดและหัวใจ เนื่องจากมีไขมันส่วนเกินเข้าไปอยู่ในเลือดและเกาะติดแน่นอยู่กับผนังหลอดเลือดจนทำให้การหมุนเวียนเลือดมีปัญหา เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวานและมีความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือหลอดเลือดสมองตีบ ไขมันส่วนเกินยังอาจเข้าไปสะสมในเนื้อเยื่อบริเวณทางเดินหายใจซึ่งทำให้การหายใจติดขัด ความสามารถในการทำงานของปอดและหัวใจลดลง ซึ่งล้วนแต่มีความรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตนอกจากนี้ น้ำหนักตัวที่มากยังเป็นผลให้กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อรับภาระน้ำหนักจนเกิดอาการปวด เคลื่อนไหวตัวได้ลำบาก อาจรุนแรงถึงขั้นกระดูกโก่งงอและผิดรูปจนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันที่ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อีกทั้งคนอ้วนมีแนวโน้มที่จะขาดความมั่นใจในตัวเองเนื่องจากเป็นกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง บางกรณีต้องพบอุปสรรคในการเข้าสังคมเนื่องจากรู้สึกว่าถูกล้อเลียนหรือถูกมองว่ามีความผิดปกติ
ปัจจุบันปัญหาความอ้วนมีแนวโน้มถูกพบในวัยเด็กในจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมากเกิดจากภาวะโภชนาการเกินหรือการกินอาหารที่ไม่เหมาะสมในปริมาณมาก รวมถึงมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายจำกัด ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เด็กจำเป็นต้องมีชีวิตผันแปรไปตามค่านิยมหรือการใช้ชีวิตของผู้ปกครองที่อาจเร่งรีบและไม่มีเวลาคุณภาพในการดูแลเด็กที่มากพอ เด็กจึงตกอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจเพิ่มมากขึ้น
การจะตัดสินว่าเด็กอ้วนเกินไปหรือไม่นั้นนอกจากจะมองดูด้วยตาเปล่าซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว ยังสามารถเทียบเคียงกับค่ามาตรฐานจากค่าดัชนีมวลกายต่ออายุ (BMI-for-age) โดยคำนวณค่าน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กแล้วนำมาเทียบกับค่ามาตรฐานตามเพศและวัยของเด็ก หรือเทียบได้จากกราฟมาตรฐานที่จัดทำขึ้นโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งช่วยให้พิจารณาเบื้องต้นได้ว่าเด็กมีค่าเกินเกณฑ์ที่กำหนดมากน้อยเพียงใด เพื่อขอรับคำแนะนำจากคุณหมอในการแก้ไขเป็นลำดับไป
สำหรับการป้องกันปัญหาก็นับว่ามีความสำคัญไม่น้อย เนื่องจากปัญหาเด็กอ้วนมีสาเหตุจากพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตมากกว่าที่เป็นผลมาจากปัจจัยความผิดปกติของฮอร์โมนหรือพันธุกรรม ด้วยเหตุนี้ การป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่จะสามารถทำได้จึงควรมุ่งไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นสำคัญ โดยมี 5 ข้อแนะนำต่อไปนี้ที่คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากให้ลูกอ้วน
1.คุณพ่อคุณแม่บางคนต้องการให้ลูกตัวโตและอ้วนจ้ำม่ำเนื่องจากมีความเชื่อที่ว่าเด็กจะมีสุขภาพแข็งแรงมากกว่าเด็กตัวเล็กที่แลดูผอมแห้งแรงน้อย แต่โดยแท้จริงแล้วเด็กจะแข็งแรงและมีรูปร่างสมส่วนได้ก็ต่อเมื่อได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสม เด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินมักได้รับแป้ง ไขมัน และโปรตีนมากเกินไป จึงควรปรับรูปแบบและปริมาณอาหารให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น
2.หลายครอบครัวนั้นไม่ได้ตั้งใจให้ลูกอ้วน แต่เป็นเพราะขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะโภชนาการที่ดี ประกอบกับวิถีการดำเนินชีวิตที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา จึงเลี้ยงดูเด็กโดยเน้นที่ความสะดวกเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออาหารสำเร็จหรือให้เด็กกินขนมขบเคี้ยวและน้ำหวานจากร้านสะดวกซื้อเป็นประจำ การหาความรู้เรื่องโภชนาการและแบ่งเวลามาจัดเตรียมทำอาหารให้ลูกบ้างนับเป็นแนวทางที่ดีกว่า
3.คุณพ่อคุณแม่มักกลัวว่าลูกจะหิวหากไม่มีอาหารและของว่างระหว่างวัน จึงมักเตรียมอาหารและขนมขบเคี้ยวตุนให้เด็กสามารถมาหยิบกินไว้ไม่ให้ขาด ซึ่งเด็กอาจติดนิสัยการกินจุบจิบตลอดเวลา ทำให้ในมื้ออาหารหลักกินได้ไม่มากนักและไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างที่ควรจะเป็น คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรเตรียมอาหารว่างไว้มากเกินจำเป็น รวมทั้งควรกำหนดเวลาและปริมาณการกินอาหารว่างให้แน่นอนด้วย
4.เด็กที่ใช้เวลาส่วนใหญ่กับจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนจนไม่ได้ขยับเขยื้อนตัวไปไหน ประกอบกับคนในครอบครัวต่างคนต่างอยู่กับโลกของตัวเองจนขาดความสนใจที่จะชักชวนเด็กๆมาร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กอ้วนและมีโรคภัยอื่นๆตามมาได้โดยง่าย
5.คุณพ่อคุณแม่เมื่อรู้ถึงผลเสียจากความอ้วนอาจตกใจกลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย จึงจำกัดการกินอาหารของลูกโดยไม่จำเป็น ทั้งโดยการงดอาหารที่ลูกชอบโดยสิ้นเชิงหรือเตรียมสิ่งที่มีคุณค่าทางอาหารสูงแต่ลูกไม่ชอบมาแทน ทำให้เด็กต่อต้านทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรให้คำแนะนำและปรับเปลี่ยนอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงตั้งเป้าหมายในการดูแลสุขภาพร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ สัดส่วนและปริมาณอาหารที่ควรกินในแต่ละมื้อ หรือควรออกกำลังกายกี่ครั้งต่อสัปดาห์
เด็กอ้วนอาจจะดูน่ารักในสายตาของใครหลายคน แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ย่อมดีกว่าเพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการดูแลให้มีรูปร่างที่สมส่วนนั้นนอกจากสร้างความมั่นใจให้เด็กแล้วยังช่วยให้ห่างไกลจากโรคร้ายอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น