รมช.สาธิต สั่ง รพ.สังกัด สธ.รายงานยอดผู้ป่วยโรคปอดจากบุหรี่ไฟฟ้า หลังอเมริกาพบป่วยแล้ว 450 ราย ตาย 7 ราย ย้ำซักประวัคิย้อนหลังการสูบ เผยหลายประเทศเริ่มสั่งให้รายงานผลแล้ว
วันนี้ (19 ก.ย.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 กล่าวถึงการประชุมกรรมการกองทุน (บอร์ด) สสส. ว่า ตนได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด สธ.ทั่วประเทศ ติดตาม รวบรวม รายงานจำนวนและอาการของผู้ป่วยโรคปอดที่มีโอกาสสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา พบการเจ็บป่วยด้วยโรคปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 450 ราย ในระยะเวลาเพียงสองเดือน และเสียชีวิตแล้วถึง 7 ราย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการตื่นตัวในการเฝ้าระวังและป้องกัน จึงได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด สธ. ซักประวัติการการสูบบุหรี่ย้อนหลัง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมักจะพบว่า ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีอาการป่วยที่รุนแรงขึ้นในเวลาอันสั้น ต่างจากโรคถุงลมโป่งพองที่เกิดจากบุหรี่ธรรมดาและใช้เวลาก่อโรคนานกว่า
"ขณะนี้ในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง รัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข รายงานผลผู้ป่วยที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นการเฉพาะ เนื่องจากมีหลักฐานที่พบว่า คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมของเซลล์เนื้อเยื่อที่นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งได้" นายสาธิต กล่าวและว่า ในสหรัฐอเมริกาพบนักเรียน ม.ปลาย สูบบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นถึง 18 เท่า ในเวลาเพียง 8 ปี ดังนั้น สธ. และ สสส. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องวางมาตรการที่เข้มข้นในการในการป้องกันดูแลกลุ่มเด็ก เยาวชนเหล่านี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นกลุ่มที่มีความอยากรู้ อยากลองและอาจกลายมาเป็นนักสูบหน้าใหม่ได้