ปลัดสธ.กำชับผู้ตรวจทุกเขต ช่วย ปชช.ประสบอุทกภัย ประเมินความเสียหาย รพ. เพื่อจัดส่งความช่วยเหลือ ด้าน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ยังเปิดให้บริการได้ แม้ อ.เมืองน้ำท่วมแล้ว พร้อมขนย้ายของหนีน้ำ ขนกระสอบทรายป้องกัน เปิดรับบริจาคเลือด
วันนี้ (12 ก.ย.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด ว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ สธ.แต่ละเขตสุขภาพ เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสถานพยาบาล เพื่อจะได้จัดส่งความช่วยเหลือลงไปได้ทัน ที่ผ่านมามีการขอยา เวชภัณฑ์เข้ามา ส่วนผลกระทบกับสถานพยาบาล จะใช้งบประมาณเหลือจ่ายส่งลงไปช่วยเหลือ สำหรับสถานการณ์ที่ จ.อุบลราชธานี ขณะนี้พยายามป้องกัน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนและผู้ป่วยได้ และพยายามดูแลทุก รพ. ซึ่งมีบางที่ในหลายจังหวัดต้องปิดให้บริการ ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)
เมื่อถามถึงการดูแลสภาพจิตใจของประชาชน ที่พบว่ามีความเครียดมาก นพ.สุขุมกล่าวว่า สธ.สั่งให้ทุกกรมเข้าไปดูแลงานด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง อย่างอธิบดีกรมสุขภาพจิตก็ได้สั่งการให้มีการเข้าไปดูแล้วช่วยเหลือทางด้านจิตใจของประชาชนในพื้นที่
ด้าน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 10 กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขต 10 ครอบคลุมอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร ว่า ระดับน้ำในพื้นที่ทรงตัวแล้ว โดยศรีสะเกษ และมุกดาหารสถานการณ์คลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติ ส่วนอุบลราชธานี ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำมูลล้นตลิ่ง คาดระดับน้ำจะสูงสุดและมีพื้นที่ประสบอุทกภัยมากขึ้น แต่ระดับน้ำจะไม่สูงไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม สถานพยาบาลในเขตสุขภาพที่ 10 สามารถเปิดให้บริการได้ทุกแห่ง ไม่มีรายงานโรงพยาบาลได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่วน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ที่มีการเผยแพร่ภาพการเคลื่อนย้ายยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และบรรจุกระสอบทราย เป็นการเตรียมความพร้อมป้องกันน้ำ ซึ่งขณะนี้เข้าท่วมพื้นที่ อ.เมืองแล้ว แต่ประเมินสถานการณ์ว่า จะคล้ายกับปี 2545 ซึ่งน้ำไม่ได้เข้าท่วม รพ.สรรพสิทธิประสงค์
"รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ มีเครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์จำนวนมาก บางส่วนเคลื่อนย้ายไม่ได้ เช่น เครื่องมือทันตกรรม เป็นต้น เพื่อความไม่ประมาท จึงต้องดำเนินการหาทางป้องกันไว้ เพราะเครื่องมือมีราคาแพง และเกรงจะได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะเป็นโรงพยาบาลที่มีชั้นใต้ดิน ซึ่งเกรงน้ำจะไหลเข้าท่วมชั้นใต้ดิน และเอ่อท่วมในพื้นที่อื่นภายในโรงพยาบาล ซึ่งนอกจากขนย้ายเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ไว้ที่สูง สำรองยา เตรียมพื้นที่ชั้น 2 ไว้หากต้องย้ายจุดให้บริการผู้ป่วย ยังเตรียมน้ำ อาหารเพิ่มไว้ 2 เท่า เตรียมพื้นที่จัดจุดบริการผู้ป่วยนอกเชิงรุกที่สถานีบริการน้ำมันในพื้นที่สูงกรณีเส้นทางเข้าโรงพยาบาลน้ำท่วม รับตัวผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มานอนที่โรงพยาบาล" นพ.ธงชัย กล่าว
นพ.มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า รพ.สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ส่วนกรณีข่าวขอรับบริจาคโลหิตนั้น ขณะนี้ รพ.ยังมีโลหิตประมาณ 800 ยูนิต เพียงพอหมุนเวียนให้บริการได้ แต่เนื่องจากไม่สามารถออกไปรับบริจาคนอกสถานที่ได้ จึงขอเชิญชวนประชาชนมาบริจาคโลหิตที่ รพ. เพื่อสำรองไว้ให้ได้วันละ 900 – 1,000 ยูนิต
