xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 พื้นที่ภาคใต้ หลังเริ่มมีหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรมควบคุมโรค เร่งเฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 พื้นที่ภาคใต้ จากปัญหาหมอกควันประเทศเพื่อนบ้าน เผยยังไม่มีคนป่วยจากฝุ่น กำชับให้ความรู้ป้องกันตัว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เลี่ยงอาการกำเริบ

วันนี้ (6 ก.ย.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีพื้นที่ภาคใต้ของไทย เริ่มมีฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 จากหมอกควันที่เกิดในประเทศเพื่อนบ้าน ว่า แม้สถานการณ์คุณภาพอากาศจะยังอยู่ในระดับปกติถึงปานกลาง ซึ่งประชาชนอาจยังไม่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพโดยตรง แต่ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งรมว.สาธารณสุข ได้กำชับกรมควบคุมโรคติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด พร้อมให้ความรู้ในการป้องกันตนเองกับประชาชนในพื้นที่

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังผู้ป่วยในพื้นที่ภาคใต้ พบว่า ยังไม่ได้รับรายงานการเจ็บป่วยของประชาชนที่เป็นผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญที่สัมพันธ์กับผลกระทบจาก PM 2.5  อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้สั่งการให้กองระบาดวิทยา กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน ให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ของฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อย่างทันท่วงที รวมถึงให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) 11 นครศรีธรรมราช และสคร.12 สงขลา ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมสนับสนุนและร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ให้ความรู้ สื่อสารความเสี่ยง และแนะนำวิธีป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กให้กับประชาชน ในกรณีมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน

"ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อความเข้าใจและปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง ดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ต้องดูแลตนเองเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ถุงลมโป่งพอง โรคหลอดเลือดหัวใจ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะอาจเกิดอาการกำเริบได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในปริมาณที่สูงเกินค่ามาตรฐาน หรือเข้าไปทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกายมากเป็นระยะเวลานาน  หากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ควรป้องกันการสัมผัสฝุ่นให้น้อยที่สุด โดยสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นเวลานาน และตำรวจจราจรที่ทำงานกลางแจ้ง ควรสวมหน้ากาก สวมแว่นตา เสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันฝุ่นด้วย และหากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ หรือหมดสติ ให้รีบไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลโดยเร็ว" นพ.สุวรรณชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น