สปสช.เตรียมงบฉุกเฉินช่วย รพ.เจอฤทธิ์พายุโพดุล เผยน้ำยาล้างไตยังมีเพียงพอ ยังไม่เจอปัญหาผู้ป่วยขาดแคลน พร้อมให้ฟอกไตที่ รพ.อื่นชี่วคราวได้ ย้ำช่วงภาวะฉุกเฉิน ผู้ป่วยบัตรทองเข้ารับบริการ รพ.นอกสิทธิได้ มีระบบตามเบิกจ่าย
วันนี้ (3 ก.ย.) นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุโพดุล ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้สั่งการให้ สปสช.เตรียมข้อมูลการให้ความช่วยเหลือประชาชนและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งคงต้องดูในส่วนของค่าใช้จ่ายงบฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ให้สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตต่างๆ ได้ และกำชับให้จัดระบบเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการต่อเนื่อง
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยที่ล้างไตทางช่องท้อง สปสช.มีระบบส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านและมีจำนวนเก็บสำรองได้มากเพียงพอ จากการติดตามร่วมกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น จำกัด ยังไม่พบปัญหาผู้ป่วยขาดน้ำยาล้างไตและยังไม่มีหน่วยบริการใดแจ้งปัญหาเข้ามา ซึ่งน้ำยาล้างไตที่บ้านผู้ป่วยยังมีเพียงพอ และผู้ป่วยที่ต้องฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม ซึ่งต้องไปฟอกที่ รพ. สปสช.ได้จัดระบบเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากที่ไหนมีปัญหาก็สามารถหา รพ.สำรองให้ได้ทันที
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สำหรับประชาชนทั่วไป ตามหลักเกณฑ์ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ผู้ป่วยจะต้องรับบริการยังหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ในกรณีภาวะฉุกเฉิน บอร์ด สปสช.เคยมีมติร่วมกันให้ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่สามารถรับบริการรักษายังหน่วยบริการสาธารณสุขโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหน่วยบริการที่ให้บริการสามารถทำเรื่องเบิกค่าใช้จ่ายมาที่ สปสช.ได้ตามเกณฑ์ฉุกเฉิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรัง ซึ่ง สปสช.ในแต่ละเขตพื้นที่ได้ประสานงานกองทุนสุขภาพตำบลของแต่ละ อบต.และเทศบาล ประสานเรื่องการรับส่งผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องแล้ว
"สปสช.ได้แจ้งหน่วยบริการทั้งภายในและภายนอกระบบหลักประกันสุขภาพฯ ที่ให้บริการผู้ป่วยในช่วงน้ำท่วม ให้บริการโดยไม่คิดมูลค่า และสามารถเบิกงบประมาณจาก สปสช.ได้ ขณะที่การส่งข้อมูลชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ผ่านระบบ E-Claim สำหรับหน่วยบริการในพื้นที่ประสบอุทกภัย ไม่ต้องกังวลว่าจะส่งข้อมูลไม่ทันตามที่กำหนด สปสช.ได้แจ้งผ่อนผันการส่งข้อมูล โดยไม่ถือว่าเป็นข้อมูลล่าช้า" เลขาธิการ สปสช.กล่าว