xs
xsm
sm
md
lg

ความสุภาพที่แข็งแกร่ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Photo by v2osk on Unsplash
ไม่อยากโกรธใครเลย โกรธแล้วเครียด!

คนเจ้าอารมณ์ คนหยาบคาย เป็นคนที่น่ากลัวจนหลายคนมองว่าเป็นคนนิสัยไม่ดี ไม่น่าคบหา หากมองจริงจังแล้ว การเป็นคนขี้โมโห ชอบวิวาท ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติถาวรที่แก้ไม่ได้ แต่เป็นเพราะขาดการฝึกฝนควบคุม ขาดคนชี้แนะ จนทำให้ในที่สุดเป็นคนอ่อนแอแบบซ่อนเร้น คนพูดแรง หัวร้อน ชอบหาเรื่องคือคนที่เราไม่ควรถือสาหาความและเก็บมาคิดเป็นโทสะ เพราะคนหยาบคายเหล่านั้นล้วนมีปัญหาที่แก้ไม่ตก จึงไม่สามารถเข้มแข็งพอที่จะฝึกฝนให้สุภาพได้

เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก ที่สังคมปัจจุบัน เราตั้งค่านิยมให้ความสำคัญกับความสุขและความสำเร็จที่วัดออกมาเป็นเงินตรา หน้าตา การศึกษาและเทียบมันให้เท่ากับศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ แต่เราไม่ได้ให้น้ำหนักกับคุณภาพชีวิตและคุณภาพความคิดของคนในสังคมเท่าที่ควร

ตราบใดที่สังคมเต็มไปด้วยประชากรที่ประพฤติต่อกันด้วยความหยาบคาย ถือได้ว่าสังคมยังอ่อนแอเกินกว่าที่จะเดินไปข้างหน้า ความหยาบคายเป็นเรื่องประพฤติง่าย ไม่ต้องได้รับการควบคุมทางความคิดและจิตใจ การแสดงออกซึ่งความหยาบคายบ่อย ๆ เป็นสัญญาณเตือนถึงความอ่อนแอและความรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ ในทางกลับกัน ความสุภาพอ่อนโยนต่างหากคือความเข้มแข็งอย่างแท้จริง

การเป็นคนอ่อนโยนไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอ แต่หมายถึงความประพฤติที่ประกอบด้วยความดีและความกรุณา ซึ่งต้องใช้การฝึกฝน และควบคุมตนเอง ให้แสดงออกซึ่งการกระทำที่เหมาะสม คนที่ให้เกียรติตัวเองจะไม่กล้าพูดคำหยาบคาย คนที่ความมั่นคงทางจิตใจจะไม่แสดงความโมโหให้เสียเกียรติ ไม่วิวาทให้เสียคน เป็นที่เข้าใจได้ว่าหลาย ๆ ครั้งการจะเป็นคนสุภาพอ่อนโยนต่อคนที่หยาบคายกับเราเป็นเรื่องยากมาก แต่พึงตระหนักไว้ว่าการเป็นคนสุภาพนั้นคือการแสดงออกซึ่งการฝึกฝนมาอย่างดี จึงทำให้มีความเข้าใจในตัวเอง และบุคคลที่หยาบคาย จนสามารถจัดการปัญหาให้สงบได้ เราเลือกที่จะเป็นคนยืนหยัดในความถูกต้องด้วยการแสดงออกอย่างสุภาพต่อคนที่เกรี้ยวกราด ใจร้อน เป็นการแสดงถึงความเข้มแข็งอย่างแท้จริง

คนที่สุภาพ อ่อนโยน คือคนที่ควบคุมตนได้ดี และถือว่าเป็นทักษะอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิต ในสังคมไทยมักให้ความสำคัญกับมารยาท การพูดจา การประพฤติตน และวัดมารยาทคนที่ปลายทาง เช่น การไหว้ มารยาทการรับประทานอาหาร การแต่งกาย แต่ในการใช้ชีวิตแล้วนอกจากมารยาทการปฎิบัติตนแล้ว เราควรได้รับการฝึก "ปฏิบัติใจ" ให้อ่อนโยน สุภาพ เพราะเป็นการสร้างความเข้มแข็งมั่นคงกับการใช้ชีวิต
การเป็นคนอ่อนโยนไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอ แต่หมายถึงความประพฤติที่ประกอบด้วยความดีและความกรุณา

สังเกตจากบุคคลสำคัญระดับโลก ล้วนมีบุคลิกที่เป็นที่รักนั่นคือ ความอ่อนโยนสุภาพ พระพุทธเจ้ามีมารผจญ ยุยงให้เกิดโทสะมากมาย แต่ท่านไม่เคยถือโทสะ ไปวิวาทกับมารใด ๆ แต่ใช้สติพากเพียรจนคิดหาวิธีดับทุกข์ ซึ่งเป็นคุณค่าที่ยิ่งใหญ่กับมวลมนุษย์ หรือศาสดาของศาสนาคริสต์ พระเยซูที่ตลอดทั้งชีวิตพบกับคนร้าย ๆ มากมาย แต่ท่านได้แต่ยืนรับฟัง สงบนิ่งอย่างอ่อนโยนและเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงการพ้นทุกข์ด้วยการให้อภัย รวมทั้งผู้นำระดับโลกเช่น มหาตมคานที นักต่อสู้เพื่อเสรีภาพของอินเดีย นิโคลา เทสลา หรือองค์ดาไล ลามะ ท่านเหล่านี้ล้วนมีวาทกรรมที่งดงาม สร้างประโยชน์สุขให้สังคมภายใต้บุคลิกอันนิ่งสงบ

ความถูกต้องเป็นสิ่งที่ควรมี แต่เราสามารถดำรงความถูกต้องด้วยความเข้าใจ คนปากร้ายหลายคนใจดี เพราะต้องการยึดในคติที่ชอบธรรม คนหัวร้อนหลายคนเวลาอารมณ์ปรกติกลายเป็นคนละคน หากคนเหล่านี้ฝึกบริหารจิตใจให้ไม่ยึดมั่นถือมั่น ยอมรับความไม่แน่นอนของปัจจุบัน ความโกรธในใจ โทสะที่มีก็จะหายไปรวดเร็วและดึงเอาความดีงามมาใช้พัฒนาสังคมต่อไป

คนที่เข้มแข็ง จะทราบว่ายิ่งมีอำนาจยิ่งต้องอ่อนน้อม ยิ่งขึ้นที่สูงยิ่งต้องหนักแน่นและสุภาพ การทำผิดหากเรารับรู้และเข้าใจ เรียนรู้ที่จะตั้งใจแก้ไข ก็เท่ากับว่าสิ่งที่ผ่านมานั้นไม่ใช่ความผิดอีกแล้ว แต่มันคือบทเรียนที่ดีสำหรับตัวเรา

นิทานเรื่องหนึ่งเล่าว่า หัวหน้าเผ่าคนหนึ่งรู้ว่าตนเองแก่แล้ว หมดกำลังวังชาลงไปเรื่อย ๆ เขาต้องการหาคนมาสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าต่อจากเขา เขาจึงคัดลูกน้องที่มีแววห้าคน มอบเมล็ดพืชให้คนละเมล็ด บอกว่า

“นี่เป็นพันธุ์พืชที่ปลูกยากมาก จงเอาเมล็ดพันธุ์นี้ไปเพาะ ให้เวลาหนึ่งปี ใครปลูกได้ต้นใหญ่ที่สุดแสดงว่ามีความสามารถเป็นผู้นำเผ่าได้ และจะได้เป็นหัวหน้าต่อจากเรา”

ผ่านไปหนึ่งปี ลูกน้องแต่ละคนก็นำพืชที่ปลูกในกระถางมาให้หัวหน้าดู แต่ละต้นใหญ่ สมบูรณ์
หัวหน้าชราตรวจดูต้นไม้เหล่านั้น ในที่สุดก็หยุดที่กระถางใบหนึ่ง มันเป็นกระถางเปล่า มีแต่ดิน ไม่มีต้นไม้ หัวหน้าถามว่า “นี่เป็นของใคร?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งตอบว่า “เป็นของข้าฯ”
“ทำไมจึงปลูกไม่ขึ้น? เจ้าไม่ได้รดน้ำพรวนดินรึ?”
“ข้าฯรดน้ำพรวนดิน ให้มันรับแสงแดดทุกวัน แต่มันก็ไม่ยอมแตกหน่อผลิใบ ข้าฯจนปัญญา ข้าฯไม่มีความสามารถปลูกต้นไม้ชนิดนี้จริง ๆ”
หัวหน้าชราบอกชายหนุ่มคนนั้นว่า “เรามิได้ต้องการคนที่ปลูกต้นไม้เก่งมาเป็นหัวหน้าเผ่า เราต้องการคนซื่อสัตย์และยอมรับความจริงต่างหาก เมล็ดพืชที่เราให้ทุกคนไปนั้นเป็นเมล็ดตาย ปลูกอย่างไรก็ไม่มีทางขึ้น เจ้าเป็นคนจริง จึงสมควรเป็นหัวหน้าคนใหม่”

หลายคนมองว่าคนจริงคือคนกล้าทะเลาะโดยไม่ยอมใคร ความคิดนี้เป็นความคิดที่ยังไม่มองให้ถ่องแท้ ว่าคนอ่อนโยน ซื่อสัตย์ สุภาพ นั้นแหละคือคนจริง เคยมีไบเบิลเขียนไว้ว่า "จะโน้มน้าวใจแม่ทัพต้องมีความอดทน และคำพูดที่อ่อนโยนทำให้กระดูกแตกได้"

ครูฮ้วง

-----------------

ครูฮ้วง-เสาวลักษณ์ ลี้รุ่งเรืองพร เจ้าของสถาบัน Campus Genius Center ผู้สอนหลักสูตรติวเข้มเพื่อการสอบ SAT ด้วยแนวคิดแบบ Critical Thinking ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถยื่นคะแนนเข้าเรียน และประสบความสำเร็จในการเรียนคณะอินเตอร์ทั้งในและต่างประเทศ



กำลังโหลดความคิดเห็น