"หมอหนู" ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด จัดเตรียมยาชุดน้ำท่วม ถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุ “โพดุล” เฝ้าระวังโรคติดต่อ เผยมี รพ.รับผลกระทบ 3 แห่ง จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแล ปชช. 6 จุด ชี้น้ำมาต้องใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
วันนี้ (1 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุ “โพดุล” ที่จุดพักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม วัดบ้านนาแซง/บ้านท่าเยี่ยม/บ้านไค่นุ่น อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ว่า วันนี้มาในนามตัวแทนรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงเป็นใยประชาชน โดยสั่งการให้มาลงพื้นที่ใน จ.ร้อยเอ็ด ในการดูแลสุขภาพประชาชน โรคติดต่อ และการเข้าถึงยา เพราะเวลามีน้ำท่วมจะเกิดอุบัติเหตุ มีบาดแผล โรคติดต่อ มีเรื่องความสะอาด เรื่องอนามัย จึงต้องเตรียมยาให้พร้อม และช่วงหลังน้ำลดต้องได้รับการช่วยเหลือเรื่องโรคติดต่อ โดยเฉพาะโรคเท้าเปื่อย โรคเท้าเน่า วันนี้ได้เตรียมยามาให้ประชาชนอย่างเพียงพอ ทั้งชุดยังชีพ ยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ยารักษาน้ำกัดเท้า เสื้อชูชีพ และหน้ากากอนามัย
นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม วันนี้ฟ้าฝนเป็นใจ และทราบว่าพายุโพดุลได้เคลื่อนตัวผ่านไปแล้ว ท้องฟ้าค่อนข้างแจ่มใส ต่อจากนี้รัฐบาลจะต้องคิดหาวิธีจะทำอย่างไร ในเมื่อน้ำมาแล้วจะทำให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เพราะเมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว ยังเจอภัยแล้งอยู่เลย ในเมื่อน้ำมาแล้วก็อย่าปล่อยให้หายไปไหน วันนี้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มีเทคนิคโดยการกักเก็บน้ำ ทำเป็นธนาคารน้ำ อัดน้ำลงไปในใต้ดิน และวิธีการผันน้ำลงไปสู่อ่างเก็บน้ำในแม่น้ำที่สามารถเรียกมาใช้ได้ตลอดเวลา เป็นสิ่งที่เราจะใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสที่จะทำให้พัฒนาความสามารถในการกักเก็บน้ำได้มากขึ้น
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับ จ.ร้อยเอ็ด มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ คือ อ.เสลภูมิ อ.โพนทอง และ อ.เมยวดี มีสถานบริการได้รับผลกระทบ 3 แห่ง ได้แก่ รพ.สต.บ้านกกทัน รพ.สต.บ้านนาวี และ รพ.สต.บ้านไค่นุ่น โดยได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการ 6 จุด ผู้มารับบริการส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อผื่นคัน ยังไม่มีรายงานโรคระบาด พร้อมส่งทีมหมอครอบครัวร่วมกับ อสม.ออกเยี่ยมให้กำลังใจ แจกยาสามัญประจำบ้าน แจกถุงขยะ ให้ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะช่วงน้ำท่วม เยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดบ้านเพื่อดูแลสุขภาพพร้อมทั้งให้กำลังใจผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งประเมินภาวะซึมเศร้าของประชาชน ที่ศูนย์พักพิงศาลาประชาคมบ้านน้อยสามัคคี/ ศาลาวัดบ้านนาแซง และให้การดูแลเด็ก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่เสี่ยงต่ออุทกภัยทางน้ำ ที่เทศบาลตำบลวังหลวง
นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งนี้ ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ ติดตาม สถานการณ์ น้ำท่วม ผลกระทบและการเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขในการดูแลสุขภาพ ประชาชน ในจังหวัดของเขตสุขภาพที่ 7สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนให้โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัยจากการระบายน้ำของเขื่อนต่าง ๆ