xs
xsm
sm
md
lg

อัดกรมบัญชีกลาง ห้ามเอาเงิน 1,000 บาท "ชิม ชอป ใช้" เติมน้ำมัน แต่ไม่ห้ามซื้อเหล้าบุหรี่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เครือข่ายป้องกันภัยแอลกอฮอล์ อัดกรมบัญชีกลาง ไม่ควรเปิดช่อง เงิน 1,000ในโครงการชิม ชอป ใช้ ซื้อเหล้าบุหรี่ได้ ข้องใจห้ามเติมน้ำมันแต่ไม่ห้ามอบายมุข ชี้หลักเกณฑ์เดิมห้ามไว้ดีอยู่แล้ว แม้ควบคุมคุมยากแต่ควรส่งสัญญาณให้ชัด หากไม่ป้องปราม เงินจากภาษีประชาชนจะกลายเป็นเงินหนุนอบายมุข วอนชุมชนร่วมเฝ้าระวังไม่ใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์

จากกรณี นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุว่ามาตรการ “ชิม ชอปใช้” ไม่ได้มีการห้าม หรือจำกัดไม่ให้นำเงิน1พันบาท ที่รัฐบาลจะจ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง (G-Wallet) นำไปซื้อสินค้าประเภทสุรา เบียร์ บุหรี่ โดยห้ามไม่ให้นำไปเติมน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันเท่านั้น จนเป็นทีวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น

วันนี้ (30สิงหาคม) นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า จากรณีดังกล่าว ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้อง ท่านต้องไม่ลืมว่าเงินจำนวนนี้มาจากภาษีประชาชน การใช้จ่ายใดๆต้องเป็นไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และข้อสำคัญคือไม่ไปเพิ่มความเสี่ยง หรืออันตรายกับสังคม รวมไปถึงไม่ควรสนับสนุนให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ ดังนั้นในบรรดาอบายมุขทั้งหลาย เช่นเหล้า บุหรี่ การพนัน ควรห้ามเอาไว้ เพราะขนาดเติมน้ำมันยังห้ามไว้เลย

“ก่อนหน้านี้ กรณีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้รูดซื้อสินค้าตามร้านธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งกำหนดห้ามเรื่องเหล้าบุหรี่เอาไว้ ตรงนี้ดีอยู่แล้ว แต่พอมาให้กดเงินสดได้ อธิบดีกรมบัญชีกลางกลับเริ่มส่งสัญญาณแปลกๆ เปิดช่องให้ซื้อเหล้าบุหรี่ได้ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาชาวบ้านนำเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อเหล้า อบายมุข หรือการนำเงิน1,000 จากโครงการ “ชิม ช้อบ ใช้” อาจจะเป็นเพียงส่วนน้อย แต่ภาครัฐก็ควรป้องปรามมิให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบขยายวง แม้ไม่มีตัวเลขชัดเจนว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะมากน้อยเพียงไร แต่ก็มีนัยที่ทำให้เราเห็นว่าประชาชนบางส่วนยังขาดความเข้าใจว่าเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ เพราะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาช่วยเหลือค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อย นำไปใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นต่อการครองชีพ เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลควรมีมาตรการป้องปรามกันไว้ เช่น หากพบชัดเจนว่านำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายซื้อเหล้าบุหรี่ เล่นการพนัน ซื้อหวย เขาจะต้องเสียสิทธิอะไรบ้างเพื่อสร้างวินัย มิเช่นนั้นจะเกิดกรณีที่ทำตามๆกัน ซึ่งตรงนี้ต้องระวัง” นายชูวิทย์ กล่าว

ด้าน นายนรินทร์ แป้นประเสริฐ ประธานชุมชนวัดโพธิ์เรียง เขตบางกออกน้อย กล่าวว่า จากข่าวที่ออกมาว่ามีคุณลุงคนกดเงินไปซื้อเหล้าแล้วดื่มประสบอุบัติเหตุ เมาแล้วขับตกคลองเสียชีวิตนั้น ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตายด้วย อยากฝากให้ชุมชนช่วยกันดูแล เพราะเราจะรู้อยู่แล้วว่าในพื้นที่ของเราใครที่ชอบดื่ม ติดเหล้า ต้องช่วยกันสอดส่อง หากพบว่ามีการใช้จ่ายที่ผิดวัตถุประสงค์แบบนี้ ควรมีมาตรการในระดับชุมชน เช่น พูดคุยแจ้งเตือน ว่าอาจจะถูกตัดสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากบัตรได้ มีการขึ้นบัญชีไว้ หากพบยังทำซ้ำอีกอาจจะถึงขั้นต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทบทวนสิทธิ เป็นต้น

“ส่วนตัวมองว่านโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่ประชาชนเองก็ต้องรักษากติกาบ้านเมือง มิเช่นนั้นใครจะทำอะไรก็ได้กับเงินจำนวนนี้มันไม่ถูกต้อง สำหรับชุมชนของตนได้ทำงานเรื่องปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาสิบกว่าปี ต่างลดลงไปมาก เมื่อก่อนวงเหล้ามีแทบทุกจุด ส่งเสียงดัง ทะเลาะวิวาท ความรุนแรงในครอบครัว ลักวิ่งชิงปล้น เต็มไปหมด เดินไปตรงไหนก็ไม่ปลอดภัย แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปชนิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำให้กลายเป็นชุมชนต้นแบบ และเราจะรู้ว่าในชุมชนกลุ่มไหนเสี่ยง กลุ่มไหนที่ต้องเฝ้าระวัง และจนถึงตอนนี้ยังไม่พบว่ามีพฤติกรรมการนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ในชุมชน เดี๋ยวจะมีเงิน “ชิม ช้อป ใช้” เข้ามาช่วยอีก จึงอยากฝากให้คนในชุมชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา คอยตักเตือนกัน” นายนรินทร์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น