xs
xsm
sm
md
lg

พบป่วยมาลาเรียอีก 4 รายจาก “แอฟริกากลาง” กำลังกลับอีก 4 ราย ยันไทยไม่มีไข้เลือดออกพันธุ์ใหม่-ดื้อยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรมควบคุมโรค เผย มีคนไทยอีก 8 ราย ไปแอฟริกากลางกลุ่มเดียวกับที่ป่วยมาลาเรียดับ พบป่วยมาลาเรีย 4 ราย รักษาที่สถาบันบำราศฯ 1 ราย อยู่ รพ.รัฐในแอฟริกากลาง 3 ราย กำลังกลับไทย 4 ราย เร่งติดตามอาการใกล้ชิด พร้อมยันไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ไม่จริง ไม่มีดื้อยา เพราะไม่มียารักษาอยู่แล้ว

วันนี้ (18 ส.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคไข้มาลาเรียหลังเดินทางกลับมาจากสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ว่า คนไทยที่เดินทางไปแอฟริกากลางในกลุ่มเดียวกันมีจำนวน 9 ราย เดินทางกลับไทยแล้ว 2 ราย โดยรายแรกเป็นผู้ป่วยมาลาเรียที่เสียชีวิต อีกรายเข้ารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเริ่มป่วยวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา มีอาการไข้ อ่อนเพลีย เก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลพบเชื้อมาลาเรีย ได้รับการรักษาแล้ว ส่วนที่เหลือ 7 ราย ได้รับรายงานว่ามี 3 รายนอนรักษาตัวด้วยโรคไข้มาลาเรียที่ รพ.รัฐบาลของแอฟริกากลาง และอีก 4 รายกำลังจะเดินทางกลับ ซึ่งกรมฯ จะติดตามคัดกรอง ตรวจสุขภาพ และตรวจวัดไข้ ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า โรคมาลาเรียไม่ใช่โรคติดต่ออันตราย แต่ปัจจุบันไทยกำลังอยู่ในระยะของการกำจัดโรคมาลาเรีย จึงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น ซึ่งขณะนี้มีการเฝ้าระวังโรคมาลาเรียอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ให้เพิ่มมาตรการเข้มข้นกว่าปกติและตรวจวัดไข้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงทุกราย ส่วนผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด หากเข้าสู่ประเทศไทยแล้วสงสัยมีอาการป่วยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ส่วนที่แชร์กันกำลังเกิดการระบาดของไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ และมีปัญหาเชื้อดื้อยานั้นไม่เป็นความจริง ไม่มีไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ ในไทยยังเป็นไวรัสเดงกี 4 สายพันธุ์ที่พบเป็นประจำทุกปี แต่ที่มีอาการรุนแรงมีอยู่ 2-3 ปัจจัย คือ 1.ผู้ป่วย เช่น มีโรคประจำตัว อ้วน เบาหวาน ความดัน เป็นต้น จะทำให้ดูแลรักษายาก 2.เข้ารับการรักษาช้า เพราะมักคิดว่าเป็นไข้หวัด จะมาก็ต่อเมื่อไข้ลด ตัวเย็น ช็อก 3.ซื้อยามากินเองโดยเฉพาะกลุ่มเอ็นเสด รวมถึงการป่วยครั้งที่ 2 ไม่ว่าจะเกิดจากสายพันธุ์เดิมหรือไม่ เพราะมีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของโรค โดยอาการรุนแรง คือ ไข้เริ่มลดลง ตัวเย็น กินอาหารไม่ได้ ซึมลง ความดันตก ชีพจรเต้นเร็ว เข้าสู่ภาวะช็อก ถ่ายดำมีจุดเลือดออก มีอาการทางสมอง แม้อยู่ในมือแพทย์ก็ดูแลรักษายาก และยังอันตราย

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ส่วนไข้เลือดออกดื้อยาก็ไม่จริง เพราะเกิดจากเชื้อไวรัส จึงไม่มียารักษา เป็นการรักษาตามอาการ ไม่ให้อาการทรุดลง จนเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตราย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันแต่ก็ให้เฉพาะราย แต่ที่น่าห่วง คือ อัตราการเสียชีวิต ซึ่งมากกว่า 70 รายแล้ว และยังมีอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค จึงต้องขอความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยผู้ป่วยขอให้นึกถึงไข้เลือดออก รีบไปพบแพทย์ ไม่รอดูอาการจนทรุด สถานพยาบาลก็ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออกเป็นลำดับแรกๆ รับไว้สังเกตอาการ


กำลังโหลดความคิดเห็น