เมื่อเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดตัว "อากาศยานไร้คนขับ" หรือโดรน ที่สามารถวิเคราะห์และประเมินผล การผลิต การเก็บเกี่ยว และความหวานของไร่อ้อย ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่รองรับระบบ 5G
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล รักษาการอธิการบดี ม.ขอนแก่น กล่าวว่า เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา New - S- Curve หรืออุตสาหกรรมอนาคตของประเทศไทย ที่สามารถแข่งขันในตลาดโลก ในขณะที่เรามีต้นทุนการผลิตในภาคเกษตรสูงกว่าประเทศอื่นๆ การลดต้นทุนการผลิตจึงจำเป็นต้องมีวิธีการแก้ปัญหาในการบริหารทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พัฒนาระบบที่สามารถติดตามและตรวจวัดปริมาณคุณภาพของผลผลิต ในแปลงเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติหรือ AI เข้ามาช่วยจัดการแนวคิดดังกล่าว ผสานกับเทคโนโลยี IOT และ AT จากทีมวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยรวมกลุ่มอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ที่มีศักยภาพสูง และกลุ่มพลังงานชีวมวล ร่วมกันทำงาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อชาติในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตในระบบ 5 G และระบบ AI ที่กำลังมาถึงในไม่ช้านี้
รศ.ดร.ขวัญตรี แสงประชาธนารักษ์ ภาควิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น ในฐานะหัวหน้าโครงการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ เพื่อประเมินความหวานอ้อย การประเมินผลผลิตอ้อย (Field Practice Solutions : FPS) กล่าวว่า การพัฒนานวัตกรรมจะต้องลดต้นทุน คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งโครงการ FPS นับเป็นการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ เพื่อประเมินความหวานอ้อย มีราคาต้นทุนต่ำกว่าบริการคู่แข่งในต่างประเทศมากถึง 20 เท่า และมีความหวานแม่นยำมากกว่าบริการปัจจุบันเพียงบวกลบหนึ่ง ซึ่งบริการการตรวจค่าความหวานในประเทศไทย ปัจจุบันเป็นระบบจัดการด้วยคน คือ เก็บตัวอย่างด้วยมนุษย์ ซึ่งมีความผิดพลาดถึงร้อยละ 40 แต่หากใช้ระบบ FPS ซึ่งเป็นการนำอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน พัฒนากับซอฟต์แวร์ภาพถ่ายดาวเทียมของเอกชน นำมาวิเคราะห์ค่าความหวาน การเติบโตของพืช การวิเคราะห์โรคพืช โดยนักวิชาการจากม.ขอนแก่น สามารถวิเคราะห์ข้อมูลไร่อ้อยเป็นแสนๆ ไร่ในเวลาอันรวดเร็วและแม่นยำ เรียกว่าระบบ Artificial Intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์
รศ.ดร.ขวัญตรี กล่าวว่า เมื่อสามารถวิเคราะห์ ภาวะการเก็บเกี่ยวในเวลาที่ถูกต้อง จะไม่สูญความหวาน ไม่สูญเสียผลผลิต เกิดการคำนวณการจัดคิวการเก็บเกี่ยว ผลผลิตในช่วงเวลาดีที่สุด ความหวานดีสุดจะทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตและลดภาวะการเผาอ้อยลดการเกิดมลพิษพีเอม 2.5 เกิดการจัดการในทุกมิติได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ นักวิชาการ ม.ขอนแก่น มีหน้าที่นำภาพถ่ายดาวเทียมมาวิเคราะห์อัลกอริทึม หรือวิธีขั้นตอนกระบวนการ วิเคราะห์ ค่าสะท้อนแสงของใบพืช ค่าการดูดกลืนของน้ำ ในใบพืช แสดงผลเป็น ความเข้มของสี แสดงความหวานที่เหมาะสม บวกลบไม่เกิน 1 คือ มีความแม่นยำสูงมาก ด้วยหุ่นยนต์อัตโนมัติ (AI) ทำให้เห็นว่า พื้นที่ตรงไหนเป็นอ้อย ตรงไหนคือดิน ความสูงของอ้อยเท่าไร คิดเป็นความหวานเท่าไร สุขภาพดีไหม อ้อยโตหรือยัง โดยอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์เทคโนโลยีอัตโนมัติ AI ซึ่งระบบนี้เป็นโมดูลหนึ่งใน FPS
"อย่างไรก็ตาม ซอฟต์แวร์ของเราต้องเขียนระบบควบคุมการบินและจำกัดข้อมูล เพื่อไม่ให้รั่วไหลในต่างประเทศ เพื่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและการเกษตรของชาติ ทั้งนี้ ในอนาคต คาดหวังว่าจะเกิดการใช้ฐานข้อมูลนี้อย่างแผ่หลาย เนื่องจาก big digital data คนใช้ยิ่งเยอะยิ่งดี ข้อมูลตรงนี้จะเป็นการรวบรวมโรงงานทั้งหมด ไร่อ้อยทั้งหมด ที่เราเป็นเจ้าของเอง สามารถพัฒนาข้อมูลได้เอง เป็นประโยชน์กับชาติในทุกด้าน ซึ่งในอนาคตอันใกล้ระบบหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์จะเป็นสิ่งที่จับต้องได้และได้รับความนิยมมากไม่วันใดวันหนึ่งก็ต้องมาถึง แล้วเราจะพร้อมสำหรับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดร่วมกันในหลากมิติ” รศ.ดร.ขวัญตรี กล่าว
โครงการ "Field Practice Solutions (FPS) : ที่ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องไร่” ม.ขอนแก่น จึงไม่ใช่แค่การพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ เพื่อประเมินความหวานอ้อยในมาตรฐานระดับนานาชาติเท่านั้น แต่นับเป็นหุ่นยนต์อัตโนมัติ (AI) สำหรับการเกษตรปรึกษาเรื่องไร่อย่างครบวงจรด้วยระบบอัตโนมัติ สามารถวิเคราะห์เชิงลึกว่า โรงงานน้ำตาลจะใช้เครื่องจักรกี่ตัวที่ให้ผลประโยชน์สูงสุด คำนวนพื้นที่ใส่ปุ๋ย บ่งชี้โรคพืช โดยอัตโนมัติ เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G และ AI ที่กำลังมาถึง โดยมีแนวโน้มว่าเกษตรกรจะสามารถปลูกอ้อยและจัดการอ้อยเป็นร้อยไร่ได้เพียงคนเดียว ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถติดต่อที่ หัวหน้าโครงการโทรศัพท์ 0994200594