xs
xsm
sm
md
lg

"น้องทราย" พา "ลูเต้อร์" พบ "อัศวิน" ขอสุนัขนำทางเข้าถึงพื้นที่ราชการ-สาธารณะ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"น้องทราย" พา "ลูเต้อร์" เข้าพบ "บิ๊กวิน" วอน กทม.ปรับภูมิทัศน์ รองรับผู้พิการทางสายตา เอื้อสุนัขนำทางเข้าถึงพื้นที่สาธารณะ ราชการ ด้าน "อัศวิน" จ่อหารือ ตชด. เปิดหลักสูตรฝึกสุนัขนำทาง สั่งเปิดสวนสาธารณะทั่วกรุงให้สุนัขนำทางเข้าพื้นที่ได้ ประสาน รพ. ที่ราชการ ศูนย์การค้าอนุญาตด้วย

วันนี้ (30 ก.ค.) น.ส.คีริน เตชะวงษ์ธรรม หรือ น้องทราย สาวตาบอด นำลูเต้อร์ สุนัขนำทางสีดำพันธุ์ลาบราดอร์ เข้าพบ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขอให้ กทม.แก้ปัญหาและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการทางสายตาที่เหมาะสม โดยเฉพาะการใช้สุนัขนำทางในชีวิตประจำวัน เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่ได้รับการอำนวยความสะดวก เมื่อต้องเข้าไปใช้บริการในสถานที่ราชการต่างๆ เช่น โรงพยาบาล เป็นต้น

น.ส.คีริน กล่าวว่า อยากให้ กทม.ปรับภูมิทัศน์และกายภาพ โดยเฉพาะทางเท้าให้รองรับกับการใช้งานของผู้พิการและสุนัขนำทาง เพราะปัจจุบันทางเท้าบางจุดยังใช้งานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และยังมีอุปสรรค เช่น สิ่งกีดขวางทางเท้า สิ่งกีดขวางระดับศีรษะ ตลอดจนสุนัขจรจัด เช่นเดียวกับการคมนาคมและระบบขนส่งมวลชน เท่าที่สอบถามกลุ่มผู้พิการ ส่วนใหญ่เห็นว่า รถประจำทางหรือรถสาธารณะ ยังไม่เอื้อต่อการเดินทาง มีเพียงรถไฟฟ้าบีทีเอสเท่านั้น ที่ผู้พิการสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ตนและกลุ่มผู้พิการ ต้องการช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด จึงอยากให้ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ

“ได้อยู่กับลูเต้อร์มาสองปีแล้ว น้องถูกฝึกมาอย่างเข้มข้น สำหรับประเทศที่มีหลักสูตรสุนัขนำทาง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น ทั้งนี้ เข้าใจว่าเรื่องสุนัขนำทางมีความซับซ้อน และมีเงื่อนไขทางกฎหมายค่อนข้างมาก แต่อย่างเกาหลีจะได้รับทุนสนับสนุนจากเอกชน โดยค่าอาหารที่ตนต้องจ่ายให้แก่สุนัขเฉลี่ยประมาณเดือนละ 1,000 บาท สำหรับต่างประเทศสุนัขนำทางจะดูจากเครื่องแบบสัตว์ บังเหียน ทำให้คนทั่วไปหรือเจ้าหน้าที่ สามารถสังเกตชัดเจนว่าเป็นสุนัขนำทาง ไม่ใช่สุนัขทั่วไป รวมถึงมีบัตรลงทะเบียนสุนัขนำทางพกติดตัว” น.ส.คีริน กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กฎหมายประเทศไทยมีอยู่แล้ว เรื่องให้ความสะดวกแก่บุคคลพิการทางสายตาในการให้นำสุนัขนำทางมาใช้นำทาง แต่สุนัขจะต้องมีใบรับรอง หรือสุนัขจะต้องผ่านการฝึกโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันไทยมีอยู่ที่ศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เพื่อช่วยเหลือตำรวจในการตรวจค้นวัตถุระเบิด ดมกลิ่นเพื่อตรวจหาสิ่งแปลกปลอม รวมถึงยาเสพติด แต่ยังไม่มีหลักสูตรการฝึกสุนัขใช้นำทางผู้พิการทางสายตา โดยเบื้องต้น กทม.จะไปพูดคุยกับ ตชด. เพื่อให้เพิ่มหลักสูตรฝึกสุนัขนำทาง และจะพิจารณาออกใบรองรับสุนัขที่ผ่านการฝึกหลักสูตรดังกล่าว โดยปัจจุบันมีเพียงลูเตอร์สุนัขเพียงตัวเดียวที่ได้ใบรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ พ่อของ น.ส.คีริน เคยพูดคุยกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และเห็นชอบให้นำสุนัขมาใช้นำทางแก่ผู้พิการทางสายตา ส่วนนี้ กทม.จะหารือกับพม.เพื่อต่อยอดต่อไป

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ส่วนของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาพร้อมกับสุนัขนำทาง และประชาชนทั่วไปที่มีใบรับรองสุนัขนำทาง เบื้องต้นได้สั่งการให้สำนักสิ่งแวดล้อมเปิดสวนสาธารณะให้ผู้พิการทางสายตาที่มีสุนัขนำทางสามารถเข้าใช้บริการได้ จากเดิมไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่สวนสาธารณะทั่วไป เพื่อความเท่าเทียมทางสิทธิในการร่วมใช้ประโยชน์บริการสาธารณะได้ ซึ่งปัจจุบัน กทม.มีด็อกพาร์คเพียง 2 แห่งที่สามารถนำสุนัขมาใช้บริการได้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงทางลาดเพื่อผู้พิการ และให้เพิ่มสัญญาณไฟจราจรพร้อมเสียงเตือนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยปัจจุบันมีเพียงบางจุดเท่านั้น ทั้งนี้ ในส่วนการนำสุนัขนำทางเข้าสถานพยาบาล สถานที่ราชการ และศูนย์การค้า จะแจ้งประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงาน สามารถนำสุนัขนำทางเข้าภายในสถานที่ต่างๆ ได้










กำลังโหลดความคิดเห็น