แพทย์แผนไทยเผย "ดอกกาสะลอง" หรือดอกปีบ มีฤทธิ์ขยายหลอดลม ทำสุมยาบรรเทาอาการกำเริบ "โรคหอบหืด" ได้ ชงเป็นชาช่วยผ่อนคลาย บำรุงโลหิต บำรุงร่างกาย ช่วยให้สดชื่น
วันนี้ (24 ก.ค.) นพ.สรรพงศ์ ฤทธิรักษา รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกระแสละครกลิ่นกาสะลอง ว่า ดอกกาสะลอง หรือดอกปีบ ตามชื่อของตัวละครนั้น ดอกไม้ดังกล่าวมีสรรพคุณตามตำรายาไทยระบุว่า มีกลิ่นหอม รสหวานขม ช่วยขยายหลอดลม บรรเทาอาการโรคหอบหืด ซึ่งเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังชนิดหนึ่ง มีอาการหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม ซึ่งเกิดจากทางเดินหายใจอุดกั้น จากการอักเสบหรือบวมของหลอดลมด้วยการถูกกระตุ้นจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น กรรมพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายการติดเชื้อ และมลภาวะของสิ่งแวดล้อม ทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
นพ.สรรพงศ์ กล่าวว่า ดอกกาสะลองหรือดอกปีบ มีการศึกษาองค์ประกอบทางเคมี พบว่า มีสารสำคัญ คือ hispidulin และ hortensin ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดลมบรรเทาอาการโรคหืดได้ ภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านนำดอกปีบมาใช้บรรเทาอาการหอบหืดโดยวิธีสุมยา การสุมยา หมายถึง การสูดดมไอระเหยของสมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะผ่านไอน้ำ โดยก้มหน้าอังไอน้ำในภาชนะแล้วเอาผ้าคลุมศีรษะ วิธีทำ นำดอกปีบประมาณ 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ใส่ลงในกะละมังที่ทนความร้อน ใส่หอมแดงทุบพอแตก 2 หัว ผิวมะกรูด 1 ลูก ใส่น้ำร้อนให้ท่วม หาภาชนะมาปิดประมาณ 3 นาที นำผ้าชุบน้ำพอหมาดคลุมศีรษะ จากนั้นค่อย ๆ เปิดภาชนะ ก้มศีรษะสูดไอน้ำสมุนไพรในกะละมัง 5 นาทีหรือจนกว่ากลิ่นจะหมด อาการหอบหืดจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ นอกจากการสุมยาดังกล่าวแล้ว ผู้ป่วยโรคหืดควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการกำเริบ เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ฯลฯ
"ดอกปีบหากชงเป็นชา จะมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลาย และยังช่วยบำรุงโลหิต บำรุงร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสดชื่น นอกจากนี้ มีการวิจัยในสัตว์ทดลองว่ามีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต" นพ.สรรพงศ์ กล่าวและว่า ปัจจุบันได้มีการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยโรคหืดโดยบูรณาการร่วมกันทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย เพื่อช่วยบรรเทาอาการและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น