กรมควบคุมโรค เตือนไวรัส RSV ระบาดหน้าฝน พบระบาดเร็วขึ้นจาก ส.ค. เป็น ก.ค. แถมผู้ป่วยสูงขึ้น 30% เผยยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ชี้กลุ่มเด็กเล็กเสี่ยงอาการรุนแรง
วันนี้ (8 ก.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงฤดูฝนมักพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ จากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus: RSV) ซึ่งติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เช่น น้ำมูก เสมหะ เป็นต้น สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา จมูก ปาก และหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในละอองฝอยจากการไอ จาม ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะแสดงอาการหลังสัมผัสถูกเชื้อไวรัสในระยะเวลา 4-6 วัน และเมื่อป่วยจะสามารถแพร่กระจายเชื้อได้นาน 3-8 วัน โดยโรคนี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ แต่อาการจะรุนแรงในเด็กเล็ก เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายผิดปกติ เป็นต้น
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า อาการโดยทั่วไปอาจจะเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่อาการจำเพาะของเชื้อนี้ที่มักพบในเด็กเล็ก คือ หลอดลมฝอยอักเสบ โดยเริ่มแรกจะมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจหอบเหนื่อย อกบุ๋ม ได้ยินเสียงปอดผิดปกติ เสียงหายใจดังวีด รับประทานอาหารได้น้อย และซึมลง ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการว่า จะพบเด็กทั่วโลกเสียชีวิตจากการติดเชื้อ RSV ถึงปีละ 160,000 ราย โดยมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลก ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว 33.8 ล้านคน จำนวนนี้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 3.4 ล้านคน
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคย้อนหลังของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า ในปี 2560 เชื้อ RSV ระบาดในช่วง ส.ค. - ต.ค. โดยพบผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 9 แห่ง ตามโครงการ WHO RSV Surveillance Pilot จำนวน 1,935 คน ติดเชื้อ RSV จำนวน 148 คน คิดเป็นร้อยละ 7.65 และปี 2561 พบผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 9 แห่ง จำนวน 968 คน ติดเชื้อ RSV 115 คน คิดเป็นร้อยละ 11.88 ซึ่งเชื้อดังกล่าว มีการระบาดเร็วกว่าเดิม คือ เริ่มตั้งแต่ ก.ค. และในช่วงฤดูกาลระบาด มีจำนวนผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมาเฉลี่ยร้อยละ 30.26
"การป้องกันโรคติดเชื้อ RSV ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีน แต่สามารถปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่กระจาย ดังนี้ 1.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด ควรสอนให้เด็กๆ ล้างมืออย่างถูกต้อง และรักษาสุขอนามัยส่วนตัว 2.หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่ผู้คนหนาแน่น ไม่ควรพาเด็กไปเล่นในที่ที่มีเด็กเล่นอยู่ด้วยกันจำนวนมาก 3.หลีกเลี่ยงการสัมผัสควันบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงในขณะที่มีการติดเชื้อ 4.ผู้ป่วยควรงดการออกนอกบ้านในช่วงที่ไม่สบาย เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น และควรปิดปากปิดจมูกเวลาไอจาม 5.ทำความสะอาดบ้าน ของเล่นเด็กเป็นประจำ 6.รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ดื่มน้ำมากๆ และ 7.ให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เมื่อบุตรหลานมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ควรแยกเด็กออกจากเด็กปกติเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ" อธิบดี คร.กล่าว