กรมควบคุมโรค ย้ำผลตรวจเอชไอวี หาก “สรุปไม่ได้” ต้องมาตรวจใหม่อีกครั้ง ให้รู้สถานะที่แท้จริง ติดเชื้อหรือไม่ หากติดเชื้อจะได้เข้าสู่การรักษารวดเร็ว ลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
วันนี้ (7 ก.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีแม่ลูก 6 ร้อง รพ.ทุ่งสงตรวจเอชไอวีพลาด จนเข้าใจผิดว่าติดเชื้อมา 5 ปี แต่ผลการตรวจระบุชัดว่ายังสรุปไม่ได้ เพราะผลตรวจสองครั้งไม่ตรงกัน ต้องมีการนัดมาเจาะเลือดตรวจครั้งที่ 3 แต่สาวรายดังกล่าวไม่ได้มา ว่า ขณะนี้ สธ. ได้เร่งให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้รับผลกระทบและผู้ให้บริการ และเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาต่อไป อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าห้องปฏิบัติการ (แล็บ) โรงพยาบาลในสังกัด สธ. มีมาตรฐานในการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในเลือด มีการควบคุมคุณภาพ มีความถูกต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้ เพราะมีการตรวจสอบห้องแล็บอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง ชุดตรวจต้องผ่านการประเมินและขึ้นทะเบียนโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ วิธีการตรวจและการแปลผลที่เป็นมาตรฐานนั้น กรณีรายงานผลเป็นบวก จะตรวจด้วยชุดตรวจ 3 ชุดตรวจ ซึ่งเป็นเลือดชุดแรกเดียวกัน และมีการเจาะเลือดผู้ป่วยซ้ำอีกครั้งเป็นตัวอย่างที่ 2 เพื่อยืนยันตัวบุคคล สำหรับกรณีที่รายงานผลเป็นลบ จะตรวจด้วยชุดตรวจ 1 ชุดตรวจ หากผลเป็น “สรุปไม่ได้” ต้องนัดตรวจใหม่ที่ 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน กรณีที่ผลเป็นสรุปไม่ได้ อาจเนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น ผู้มารับบริการอาจเพิ่งสัมผัสเชื้อมา และร่างกายยังสร้างแอนติบอดีไม่ถึงระดับที่ชุดตรวจจะตรวจได้ หรืออาจเกิดจากร่างกายของผู้มารับบริการสร้างสารที่ทำปฏิกิริยากับชุดตรวจบางชุดตรวจทำให้ไม่สามารถแปลผลการตรวจได้
"ขอแนะนำว่า ทุกคนควรหันมาป้องกันตนเอง รับผิดชอบตนเองและผู้อื่น โดยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และสามารถรับการตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง ยิ่งผลยังสรุปไม่ได้ ต้องมาตรวจให้รู้ผลแน่ชัด เพื่อจะได้รู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง หากรู้ว่าติดเชื้อจะได้เข้ารับการรักษาทันที ลดการแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น” นพ.สุวรรณชัย กล่าว