กทม.เร่งดันท่อระบายน้ำแยกเกษตรฯ คืบแล้ว 50% สร้างบ่อดันท่อแล้ว 7 บ่อจาก 11 บ่อ ส่วนโครงการย่านอโศกทำได้ 23% บ่อพักน้ำส่วนใหญ่แล้วเสร็จ เล็งปรับใช้เป็นแก้มลิงพักน้ำก่อน สั่งสำนักระบายน้ำศึกษาทางไหล กำหนดจุดตั้งเครื่องสูบน้ำ
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม (Pipe jacking) ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ ว่า โครงการดังกล่าวจะก่อสร้างท่อระบายน้ำค.ส.ล. เและท่อลอดเหล็กเหนียวด้วยวิธีดันท่อ สร้างบ่อสูบน้ำค.ส.ล. 1 บ่อ บ่อดันท่อ 11 บ่อ และบ่อรับ 3 บ่อ โดยเป็นการดันท่อเหล็กเหนียว เส้นผ่านศูนย์กลาง 1,200 มม. ในถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก เพื่อรับน้ำจากซอยเสนานิคมและหน้าตลาดอมรพันธ์ไปลงคลองลาดพร้าว ส่วนถนนประเสริฐมนูกิจฝั่งขาออก จะดันท่อระบายน้ำค.ส.ล. เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.50 ม. และ 1.80 ม.
การดันท่อจะก่อสร้างบ่อดัน 11 บ่อ บ่อรับ 3 บ่อ พร้อมทั้งก่อสร้างบ่อสูบน้ำบริเวณริมคลองลาดพร้าว กำลังสูบ 4.50 ลบ.ม./วินาที เพื่อสูบน้ำลงสู่คลองลาดพร้าว ผลงานที่ทำได้ 50% ที่ผ่านมาผู้รับจ้างได้ก่อสร้างท่อระบายน้ำค.ส.ล. เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.80 ม. ได้ความยาว 882 ม. จากความยาว 1,120 ม. ก่อสร้างท่อลอดเหล็กเหนียว เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.20 ม. ได้ความยาว 53 ม. จาก 528 ม. ก่อสร้างท่อเหล็กเหนียว เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.80 ม. ได้ความยาว 200 ม. จากความยาว 206 ม. ก่อสร้างบ่อดันท่อได้ 7 บ่อ จาก 11 บ่อ และก่อสร้างรางระบายน้ำความยาว 20 ม. เมื่อโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม (Pipe jacking) ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์แล้วเสร็จ จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในถนนสายหลัก เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำบริเวณถนนพหลโยธินและพื้นที่ใกล้เคียง
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการ Pipe Jacking บริเวณซอยสุขุมวิท 21 (อโศกมนตรี) ทำได้ 23% การก่อสร้างบ่อพักน้ำส่วนใหญ่จะแล้วเสร็จ คงเหลือในส่วนของการดันท่อลอด ซึ่งบ่อพักน้ำดังกล่าวสามารถพัฒนาเป็นแก้มลิงชั่วคราวเพื่อกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำดำเนินการลอกท่อระบายน้ำ พร้อมทั้งตรวจสอบทิศทางการไหลของน้ำ และกำหนดจุดที่เหมาะสมในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อสูบน้ำที่กักเก็บในบ่อพักระบายลงคลองในพื้นที่ต่อไป
