“บุญรักษ์” นั่งประธาน 2 บอร์ดชุดกลั่นกรอง-รับรองหลักสูตร ขยายเพิ่มอบรมออนไลน์ชวนวิทยาลัยรัฐและเอกชนส่งหลักสูตรเข้ามา ช่วยครูอาชีวะเก็บชั่วโมงขอวิทยฐานะ
วันนี้ (5 พ.ค.) ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามการขับเคลื่อนงานพัฒนาครูเพื่อให้มีและเลื่อนวิทยาฐานะ ตามที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ หรือ ว.21 โดยมีการนับชั่วโมงการอบรมและพัฒนานั้น สอศ.จะแจ้งไปยังวิทยาลัยต่างๆว่า นอกจากการเข้ารับการอบรมตามโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร หรือคูปองพัฒนาครูแล้ว ยังมีช่องทางอื่น ๆ ที่ครูสามารถอบรมพัฒนาตนเอง และเก็บชั่วโมงมานับเป็นชั่วโมงพัฒนาได้ เช่น การเข้ารับอบรมในหลักสูตรของมหาวิทยาลัย หรือองค์กรต่างๆ ที่จัดขึ้น ซึ่งต้องมีหัวข้อและประเด็นครบตามที่ ก.ค.ศ.กำหนดและจัดอบรมตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. 2560 เป็นต้นไป โดยให้วิทยาลัยหรือหน่วยงานส่งหลักสูตรนั้นๆ มาพร้อมรายชื่อผู้ที่อบรมผ่าน ซึ่งทาง สอศ.มีกรรมการ 2 ชุด คือ คณะกรรมการกลั่นกรองหลักสูตร และคณะกรรมการรับรองหลักสูตร ซึ่งมีตนเป็นประธาน เพื่อให้รับรองต่อไป เพราะ ก.ค.ศ.ได้ให้อำนาจ สอศ.ให้การรับรองหลักสูตรแล้ว
ดร.บุญรักษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ สอศ.กำลังขยายช่องทางใหม่ คือ การอบรมผ่านระบบอีเทรนนิ่ง ผ่านระบบออนไลน์ที่สามารถโต้ตอบกันในกิจกรรมต่าง ๆ และประเมินหลังการอบรมได้ โดย สอศ.ส่วนกลาง จะรวบรวมหลักสูตรการอบรมต่าง ๆ มาไว้ พร้อมทั้งสนับสนุนให้วิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ จัดทำหลักสูตรและนำมารวบรวมไว้ในระบบอีเทรนนิ่ง เพื่อให้ครูได้เข้ามาลงทะเบียนอบรม ซึ่งหากแต่ละวิทยาลัยผลิตหลักสูตรได้ 10 บทเรียน ก็จะทำให้มีถึง 400-500 บทเรียน ขณะเดียวกันจะมีการรณรงค์ให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ เข้ามาใช้ระบบนี้เพราะครูเอกชนก็ต้องนำผลการอบรมพัฒนาไปเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
“การใช้คูปองครูขณะนี้มีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ ซึ่งทางสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา ได้จัดสรรงบสนับสนุนให้ครูเข้ารับการอบรมได้ 7,000 บาท ต่อคน แต่ได้ไม่ครบทุกคน วิทยาลัยก็ไม่สะดวกในการงบฯของสถานศึกษามาใช้ให้ครูเดินทางไปอบรม ขณะเดียวกันการจัดให้อบรมแบบเผชิญหน้า ครูก็มีภาระการสอนทั้งภาคเช้าภาคบ่าย ทำให้ไม่สะดวกในการเข้าอบรม ซึ่งช่องทางอีเทรนนิ่งจะทำให้ครูได้รับความสะดวกมากขึ้น” ดร.บุญรักษ์ กล่าว