มทร.อีสาน-ม.เกษตรฯ เตรียมปลูก "กัญชา" สำหรับแพทย์แผนไทยที่สกลนครแห่งแรก 18 มิ.ย.นี้ ขณะที่ รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ รอลุ้น ป.ป.ส.ให้กัญชาของกลาง เตรียมพร้อมผลิตเครื่องยากลางได้ 18 มิ.ย.เช่นกัน หลังผ่านอนุญาต อย.แล้ว เตรียมนัดติวเข้ม รพ.ผลิตตำรับยากัญชาสัปดาห์หน้า ยื่นขออนุญาตผลิตจาก อย. มั่นใจเริ่มผลิตยาได้ตามกำหนด พร้อมเร่งส่งรายชื่อหมอแผนไทย-หมอพื้นบ้าน 2,800 คนทั่วประเทศ ผ่านอบรมขึ้นทะเบียน อย.
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงการปลูกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยทั้ง 4 ภาคที่ได้ลงนามความร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) จ.สกลนคร ว่า การปลูกกัญชาในส่วนของภาคตัวันออกเฉียงเหนือนั้น มทร.อีสาน จะปลูกให้ได้กัญชาสดจำนวน 2,000 กิโลกรัม และ มก.ปลูกให้ได้อีก 1,000 กิโลกรัม ซึ่งได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว คาดว่าจะสามารถปลูกได้ในช่วงวันที่ 18 มิ.ย.นี้ โดยจะมีการเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานด้วย โดยกัญชาสดที่ได้จากทั้งสองแห่ง จะส่งให้ รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร ในการผลิตเป็นเครื่องยากัญชากลางและตำรับยาที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม ซึ่งกฎหมายอนุญาตแล้ว 16 ตำรับ แต่อาจผลิตสัก 3-4 ตำรับที่มีการใช้จำนวนมากก่อน
"รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ ผ่านมาตรฐานการผลิตยาที่ดีหรือ GMP และได้มีการขออนุญาตผลิตจากทาง อย.เรียบร้อยแล้ว จึงได้มีการขอกัญชาของกลางจากทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จำนวน 200 กิโลกรัม เพื่อผลิตเครื่องยากัญชากลางในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ด้วย แต่จะได้รับของกลางจาก ป.ป.ส.หรือไม่ หรือได้รับเท่าไร ทาง ป.ป.ส.จะแถลงข่าวในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ว่า ของกลางจะแบ่งสรรอย่างไรบ้าง" นพ.ปราโมทย์ กล่าว
นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ภาคอีสานจะมีการปลูกกัญชาโดยสภาเกษตรกร จ.บุรีรัมย์ อีก จำนวน 1,000 กิโลกรัม เพื่อส่งให้กับ รพ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ แต่ รพ.คูเมือง ได้ขอของกลางจาก ป.ป.ส.เช่นกัน หากได้รับของกลางมา คาดว่าจะผลิตเครื่องยากลางได้ใน ส.ค.นี้ ส่วนภาคเหนือ สภาเกษตรกร จ.ลำปาง จะปลูกกัญชาจำนวน 2,000 กิโลกรัม ส่งให้ รพ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่ คาดว่าจะเริ่มผลิตตำรับยาและเครื่องยากลางได้ใน ต.ค. 2562 สำหรับภาคกลาง สภาเกษตรกร จ.กาญจนบุรี จะปลูกให้ได้ 2,000 กิโลกรัม ส่งให้ รพ.ดอนตูม จ.นครปฐม 1,000 กิโลกรัม และ รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี 1,000 กิโลกรัม ซึ่ง รพ.ดอนตูม ได้ขอของกลางจาก ป.ป.ส.ด้วย หากได้รับของกลาง คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ใน ส.ค.นี้ ส่วน รพ.หนองฉาง คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ ต.ค.นี้ ขณะที่ภาคใต้ สภาเกษตรกร จ.สุราษฎร์ธานี จะปลูกกัญชาให้ได้ 2,000 กิโลกรัม ส่งให้ รพ.ท่าฉาง คาดว่าจะผลิตเครื่องยากลางและตำรับยาได้ ต.ค.นี้
"ขณะนี้ รพ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย รพ.หนองฉาง รพ.คูเมือง และ รพ.ท่าฉาง ต่างได้รับมาตรฐาน GMP ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียง รพ.ดอนตูม ที่ยังต้องรอการประเมิน GMP ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการลงไปตรวจประเมิน ซึ่งกรมฯ จะนัดหารือกับ รพ.ทั้งหมดที่เป็นผู้ผลิตในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือในการจัดทำเอกสารในการขออนุญาตผลิตจากทาง อย. โดยใช้ต้นแบบจาก รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ ซึ่งผ่านการอนุญาตไปแล้ว ก็คิดว่าหากผลิตโดยวิธีการเดียวกัน ก็ไม่น่ามีปัญหา ซึ่งกระบวนการขออนุญาตจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก็คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ตามแผนที่วางไว้" นพ.ปราโมทย์ กล่าว
นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า สำหรับการกระจายเครื่องยากัญชากลางและตำรับยาที่มีกัญชาผสมหลังจากผลิตได้นั้น จะส่งให้แก่สถานพยาบาลและสถานปฏิบัติงานที่มีแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย.ประจำอยู่ ในการใช้รักษาผู้ป่วย ซึ่งล่าสุด กรมฯ ได้จัดอบรมผู้มีสิทธิสั่งใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทย ประกอบด้วย แพทยืแผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกันทั่วประเทศทั้ง 13 เขตสุขภาพ โดยมีผู้ผ่านการอบรมจำนวน 2,800 คน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลและจะส่งรายชื่อเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้สั่งใช้กัญชาตามกฎหมายกับทาง อย.ให้ได้ก่อนช่วงที่จะมีการผลิตตำรับยาหรือเครื่องยากลาง เพื่อให้เมื่อผลิตแล้วมีผู้ที่สามารถสั่งใช้ได้เลย อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบข้อมูลผู้ผ่านการอบรมจะมีการดูด้วยว่า มีสถานที่ทำงานอยู่ที่ใด เพราะสถานพยาบาลนั้นจะต้องขออนุญาตครอบครองกับทาง อย.ก่อนด้วย รพ.ที่ผลิตจึงจะสามารถส่งตำรับยาและเครื่องยากลางให้สถานพยาบาลที่มีแพทย์แผนไทยในการจ่ายกัญชาได้