“หมอมนูญ” รพ.วิชัยยุทธ เผยผู้ป่วยใช้ “น้ำมันกัญชา” เกินขนาด กินไวน์ร่วมด้วย ยิ่งเสริมฤทธิ์หลอนประสาท ระบุพบคนไข้จากการใช้น้ำมันกัญชา 3-4 คนต่อเดือน ห่วงผู้ป่วยทิ้งการรักษา หันใช้กัญชา จนโรคกำเริบเป็นอันตราย บางกลุ่มหัวใจเต้นเร็ว จนถึงขั้นช็อกตายได้
วันนี้ (23 พ.ค.) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ และหัวหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.วิชัยยุทธ ให้สัมภาษณ์กรณีพบผู้ป่วยใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาดมารักษาที่ห้องฉุกเฉินของ รพ.วิชัยยุทธ ว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นผู้ชาย อายุ 28 ปี ภรรยาเป็นผู้เรียนรถฉุกเฉินมาส่งโรงพยาบาล มาด้วยอาการประสาทหลอน เห็นมีนรกจะมาเอาตัวไป เห็นภรรยาเป็น 2 คน และมีอาการทางร่างกาย คือ คลื่นไส้อาเจียน พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง ฟังไม่รู้เรื่อง หัวใจเต็นเร็ว จากการเจาะเลือดดูพบว่าเม็ดเลือดขาวสูงถึง 2 หมื่น สูงกว่าคนปกติที่อยู่ประมาณ 1 หมื่น การรักษาเนื่องจากไม่มียาถอนพิษกัญชา จึงต้องรักษาตามอาการและให้น้ำเกลือ และรอดูอาการ จนวันรุ่งขึ้นมีอาการดีขึ้น ซึ่งผู้ป่วยรายนี้นอน รพ.อยู่ 2 วัน และเมื่อถามก็จำเหตุการณืไม่ค่อยได้
นพ.มนูญกล่าวว่า จากการสอบถามพบว่าผู้ป่วยรายนี้มีปัญหานอนไม่หลับ มีการดื่มไวน์เป็นประจำ จึงไปหาน้ำมันกัญชามาใช้ ถือว่าเป็นการใช้ครั้งแรก และใช้ร่วมกับการดื่มไวน์ ซึ่งไปเสริมฤทธิ์กัญชาในเรื่องของการหลอนประสาท ทั้งนี้ ผู้ป่วยเริ่มใช้ตอนประมาณเที่ยงคืน ใช้ประมาณ 1 หยด ก็ยังนอนไม่หลับ จึงเพิ่มไปอีก 2-3 หยด รู้สึกผ่อนคลาย และหยดใต้ลิ้นต่อไปเรื่อยๆ จนถึงตี 3 รวมแล้วประมาณ 40 หยด เพราะทางญาติผู้ป่วยนำน้ำมันกัญชามาให้ดูด้วย ขวดขนาด 5 มิลลิลิตร และเพิ่งใช้วันแรกก็หายไปประมาณ 2 มิลลิลิตรแล้ว ถือว่าเป็นการใช้เยอะจนเกินขนาด ซึ่งการใช้เยอะขนาดนี้ยังไม่มีรายงานในโลกว่าทำให้น้ำมันกัญชาทำให้เสียชีวิต แต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตจากอย่างอื่นได้ เช่น หากขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรอาจเกิดอุบัติเหตุ เพราะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ ซึ่งไปทำให้หัวใจเต้นเร็วมากขึ้นก็อาจหัวใจวายเสียชีวิตได้
“จากการสอบถามหมอที่ทำงานห้องฉุกเฉินพบว่า มีหมอที่พบเห็นคนไข้ 3-4 คนในเดือนที่ผ่านมา ที่มารักษาด้วยผลข้างเคียงจากการใช้น้ำมันกัญชา คาดว่า รพ.อื่นๆ ก็คงเจอเหตุการณ์เช่นนี้คล้ายๆ กัน เพราะมีการให้ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียว่ารักษาได้ถึง 39 โรค ซึ่งผมเป็นห่วงเพราะบางโรคยังรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันได้ เช่น เอชไอวี แต่กลับทิ้งการรักษาไปใช้กัญชาซึ่งยังไม่มีข้อมูลว่ารักษาได้ ทำให้ไวรัสเพิ่มจำนวนจนเป็นอันตราย และอาจเกิดการดื้อยา ทำให้สุดท้ายต้องใช้ยาสูตรใหม่ราคาแพงขึ้นไปตลอดชีวิต หรืออย่างเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดสมอง เมื่อไปหยุดยาก็ทำให้เกิดอันตราย” นพ.มนูญกล่าว และว่า มองว่ากัญชาเหมาะกับการรักษาโรคที่แผนปัจจุบันรักษาไม่ได้แล้ว เช่น มะเร็งระยะสุดท้าย เพื่อให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น และเมื่อถึงเวลาก็จากไปได้อย่างสงบหรือโรคที่ยาแผนปัจจุบันใช้ไม่ได้แล้ว อย่าง 4 กลุ่มโรค คือ ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ปวดประสาท ลมชักในเด็ก คลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด
นพ.มนูญกล่าวว่า ที่อันตรายอีกอย่าง คือ การหยดน้ำมันกัญชาใต้ลิ้น แล้วล้มตัวลงนอน อาจสำลักน้ำมัน เพราะน้ำมันเบากว่าน้ำ น้ำมันอาจเล็ดลอดไหลลงหลอดลมและปอด โดยเฉพาะคนสูงอายุ ทำให้เกิดการสะสมในปอด จนเกิดปอดอักเสบ หายใจลำบาก ซึ่งรักษาได้ยาก เป็นอันตรายที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ การใช้ควรอู่ภายใต้คำแนะนำของแพทยื และควรเริ่มใช้จากปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยเพิ่มโดสในระยะเวลาที่ห่างออกไป ไม่ใช่เพิ่มในวันเดียวกัน
