หมอ รพ.วิชัยยุทธ โพสต์พบผู้ป่วยนอนไม่หลับ ใช้ “น้ำมันกัญชา” หยดใต้ลิ้นเกินขนาดถึง 40 หยด สุดท้ายประสาทหลอน เห็นนรกมาเอาตัว พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง เกร็ง ลุกยืนไม่ได้ คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว สุดท้ายภรรยาต้องส่ง รพ.
วันนี้ (23 พ.ค.) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ และหัวหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.วิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีพบผู้ป่วยที่ได้รับอันตรายจากการใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาดจนต้องเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินของ รพ. ว่าตั้งแต่มีข่าวประโยชน์ของกัญชาในการรักษาสารพัดโรค บางโรคยังไม่มีข้อมูลยืนยันผลการรักษาทางการแพทย์นั้น เริ่มมีคนไข้เข้าห้องฉุกเฉินในเวลากลางดึก เนื่องจากกินน้ำมันกัญชาเกินขนาดหลายคนในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีผู้ป่วยชายไทยอายุ 28 ปี มีปัญหานอนไม่หลับ และดื่มแอลกอฮอล์ทุกวัน ไม่เคยใช้กัญชามาก่อนในชีวิต เพิ่งไปรับน้ำมันกัญชาครั้งแรกมา 1 ขวด ขนาด 5 มิลลิลิตร เที่ยงคืนแล้วยังนอนไม่หลับ จึงทดลองหยดน้ำมันกัญชาใต้ลิ้น 1 หยด รอสักพักไม่หลับ หยดต่ออีก 2 หยด เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย จึงหยดต่อไปเรื่อยๆ รวมแล้วประมาณ 40 หยด ใช้ไปประมาณ 2 มิลลิลิตร
ตอนตี 3 เริ่มมีประสาทหลอน เห็นนรกมาเอาตัว เห็นภาพภรรยาเป็น 2 คน พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง พูดฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แขนขาเกร็ง ลุกยืนเดินไม่ได้ มีคลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว ภรรยาเรียกรถฉุกเฉินมาส่งโรงพยาบาล ตรวจเลือดเม็ดเลือดขาวในเลือดขึ้นสูง 20, 100 ได้ให้น้ำเกลือและให้นอนพักใน รพ. รักษาแบบประคับประคอง เพราะไม่มียาต้านพิษกัญชาโดยตรง คนไข้อาการดีขึ้นเอง แต่หลังจากนอนตื่นขึ้นมาจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ครบถ้วน คนไข้รายนี้ดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับน้ำมันกัญชา ยิ่งทำให้ผลข้างเคียงของน้ำมันกัญชาโดยเฉพาะจากสารเคมี THC เพิ่มสูงขึ้น
ขณะนี้ทุกวันจะมีคนไข้หลายคนขอใบรับรองแพทย์จากหมอเพื่อยืนยันว่าป่วยเป็นโรคนอนไม่หลับและโรคอื่นๆ เพื่อไปขอรับกัญชา ถึงแม้จะไม่มีรายงานว่ากินน้ำมันกัญชาเกินขนาดทำให้ถึงตาย แต่ก็ทำให้ป่วยถึงขั้นเข้า รพ.ได้ ในอนาคตเชื่อว่าจะมีคนไทยที่กินน้ำมันกัญชาเกินขนาดมาเข้า รพ.แบบฉุกเฉินมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าถ้ากินน้ำมันกัญชาเกินขนาดอาจเกิดผลข้างเคียงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันตรายมากหากต้องขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร ถ้าจะทดลองใช้ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เริ่มวันแรก 1 หยด ค่อยๆ ปรับช้าๆ ใช้เวลาหลายๆ วัน ปรับขึ้นทีละ 1-2 หยด ไม่ใช่ใช้มากตั้งแต่วันแรกอย่างผู้ป่วยรายนี้
อันตรายอีกอย่างหนึ่งของการหยดน้ำมันหลายๆ หยดใต้ลิ้นในเวลาเดียวกัน (ไม่เฉพาะแต่น้ำมันกัญชา) แล้วล้มตัวลงนอน คือ การสำลักน้ำมัน เพราะน้ำมันเบากว่าน้ำ น้ำมันอาจเล็ดลอดไหลลงหลอดลมและปอดโดยเฉพาะคนสูงอายุ โดยคนที่สำลักไม่รู้ตัว การสำลักน้ำมันปริมาณน้อยๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดปอดอักเสบจากการสำลักน้ำมัน (Lipoid pneumonia) เมื่อเป็นปอดอักเสบแล้วรักษายาก
“ผมเห็นด้วยกับข้อบ่งชี้ของโรคที่เมื่อรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบันแล้วไม่ได้ผล ให้ใช้น้ำมันกัญชาได้ คือ 1. โรคมะเร็งระยะสุดท้าย 2. คลื่นไส้อาเจียน จากการรับยาเคมีบำบัด 3. ปวดเรื้อรังจากโรคมะเร็ง 4. กล้ามเนื้อหดเกร็งจากโรคเอ็มเอสปลอกปลายประสาทอักเสบ และ 5. โรคลมชักดื้อยาในเด็ก จากประสบการณ์ของผมในการดูแลรักษาคนไข้มะเร็งระยะสุดท้ายที่ได้น้ำมันกัญชาหลายคน พบว่าน้ำมันกัญชาสามารถช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน และปวดได้บ้าง แต่ไม่สามารถยืดชีวิตผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้ายได้ ไม่ควรใช้น้ำมันกัญชากับคนที่ป่วยด้วยโรคที่ปัจจุบันมียารักษาได้ผลอยู่แล้ว อย่างเช่นโรคติดเชื้อเอชไอวี จะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยหากหยุดยาต้านไวรัสแล้วเปลี่ยนมากินน้ำมันกัญชาแทน เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังก่อให้เกิดเชื้อดื้อยาอีกด้วย” นพ.มนูญกล่าว