xs
xsm
sm
md
lg

สถาบันโรคผิวหนัง จ่อวิจัย “กัญชา” รักษาโรคผิวหนัง-ชะลอวัย อาจได้ผลิตภัณฑ์ในปี 63

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สถาบันโรคผิวหนัง เตรียมปลูกกัญชา 5 สายพันธุ์ ลุยทำสารสกัดวิจัยรักษาโรคทางผิวหนัง และช่วยการชะลอวัย คาดปี 63 รู้ผล จนถึงได้ตัวผลิตภัณฑ์ ชี้เป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบทา ไม่ถูกนำไปใช้ทางที่ผิด ด้านสถาบันมะเร็งฯ ประกาศหาผู้ร่วมวิจัยกัญชารักษามะเร็ง ทั้งกลุ่มปลูก และสถาบันการศึกษา

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการนำสารสกัดกัญชามาใช้ประโยชน์กับโรคทางผิวหนังว่า มีการศึกษาข้อมูลพบว่าสารสกัดกัญชามีประโยชน์กับโรคทางผิวหนังหลายโรค เช่น โรคมะเร็งผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ โรคเด็กดักแด้ ครีมบำรุงผิว เป็นต้น เบื้องต้นสถาบันคาดการณ์ว่ามีความต้องการใช้กัญชาดอกแห้งมาทำวิจัยประมาณ 10 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งที่น่าสนใจ คือ การนำสารสกัดจากกัญชามาช่วยในการชะลอวัย เพราะมีงานวิจัยจากต่างประเทศหลายแห่งระบุว่า ในสารสกัดกัญชามีสารแอนตีออกซิแดนต์ที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบได้

เมื่อถามว่าจะปลูกกัญชาและทำสารสกัดเพื่อนำมาวิจัยโรคทางผิวหนังได้เมื่อไหร่ พญ.มิ่งขวัญกล่าวว่า คาดว่า ภายในปี 2562 จะสามารถปลูกกัญชาและทำสารสกัดจากกัญชาได้ จากนั้นจะนำสารที่ได้มาใช้ทดลองในเซลล์ทดลองของมนุษย์ ซึ่งโรคทั่วไปในเบื้องต้นน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน แต่โรคที่มีความซับซ้อนก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ดังนั้น ในปี 2563 น่าจะได้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผิวพรรณ ผื่นภูมิแพ้ และน่าจะได้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการชะลอวัยที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกัญชาเป็นตัวแรก เพราะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหนังนั้น หลักๆ คือใช้ทา ดังนั้น จึงจะไม่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

“สถาบันจะยื่นขอปลูกกัญชาเอง เพราะหากไปขอจากหน่วยงานอื่นมาทำการทดลอง อาจมีปัญหาเรื่องสายพันธุ์ที่เราอาจจะควบคุมไม่ได้ ดังนั้น เบื้องต้นได้มีการคัดเลือกสายพันธุ์กัญชาแล้ว 5 สายพันธุ์ เป็นสายพันธุ์ของไทย 3 สายพันธุ์ และต่างประเทศ 2 สายพันธุ์ จากนั้นจะนำสารสกัดมาทดลองและวิจัย เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีที่สุดเพียง 2-3 สายพันธุ์ ก่อนขยายนำสู่กระบวนการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ สถาบันโรคผิวหนังเป็นสถาบันเชิงวิจัยวิชาการอยู่แล้ว สามารถดำเนินการปลูกได้ แต่จะเป็นโครงการร่วมมือระหว่างสถาบันโรคผิวหนัง กับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (กว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยจะปลูกในที่ดินของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึ่งมีโรงเรือนพร้อมอยู่แล้ว โดยจะปลูกในโรงเรือนเป็นแบบระบบปิด" พญ.มิ่งขวัญ กล่าว

นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้สถาบันมะเร็งฯ มีความพร้อมหลายเรื่อง ประกอบด้วย 1. มีบุคลากร เช่น แพทย์ เภสัชกร ที่เข้าร่วมอบรมการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งจะมีความรู้ความสามารถในการทั้งสั่ง จ่าย และให้ข้อมูลความรู้กับผู้ที่ใช้กัญชาได้ และ 2. มีการวิจัยโรคมะเร็งที่มีการกำหนดโปรโตคอล (Protocol) ไว้หมดแล้ว เป็นต้น ดังนั้น สถาบันมะเร็งฯ จึงต้องการผู้ร่วมวิจัย ร่วมปลูกกัญชา เช่น สภาเกษตรกรแห่งชาติ มหาวิทยาลัยที่มีความพร้อม เข้ามาร่วมวิจัยกับทางสถาบันมะเร็งฯ เพราะการจะนำสารสกัดกัญชามาใช้ในทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาหรือวิจัย ตัวผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานที่รู้ส่วนประกอบชัดเจน ขณะนี้ยังผลิตไม่ได้ เพราะปัจจุบันที่มีการใช้ ก็ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสายพันธุ์และความปลอดภัย บางครั้งใช้ได้ บางครั้งใช้ไม่ได้ เพราะทั้งสายพันธุ์และคุณภาพต่างๆ ยังไม่ได้ควบคุมในมาตรฐาน GMP

“ปัจจุบันมีผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมาก เมื่อทราบข่าวว่ามีทางเลือกและมีหนทางการรักษา ผู้ป่วยก็อยากจะใช้ ซึ่งเราก็อยากจะจ่ายให้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน และตอนนี้นโยบายของกรมการแพทย์ มีการเปิดกว้างให้หลายฝ่ายมาร่วมกันทำงาน เพราะหากรอแต่ขององค์การเภสัชกรรมอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ดังนั้น สถาบันมะเร็งฯ จึงอยากได้แหล่งการปลูกที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อการใช้” ผอ.สถาบันมะเร็งฯ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น