โฆษกกระทรวงศึกษาธิการยืนยันผู้บริหารระดับสูงไม่สนับสนุนการเลือกปฏิบัติ และโรงเรียนเอกชนจะเลือกรับครูด้วยเหตุผลทางเพศสภาพไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการสมัครสอบคัดเลือกครู ให้พิจารณาตามคุณสมบัติตรงตามวิชาที่ต้องการและเสมอภาคเป็นธรรม เตรียมตรวจสอบกรณี“วรวลัญช์ ทวีการ”โดนปฏิเสธ
นายชลำ อรรถธรรม โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกรณีสื่อมวลชนนำเสนอเรื่องของวรวลัญช์ ทวีการ รองมิสทิฟฟานี สาวข้ามเพศ ซึ่งจบการศึกษาจากคณะครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งไปสมัครเป็นครูตามโรงเรียนเอกชนต่าง ๆ แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องด้วยเพศสภาพ ทั้งที่เธอฝันอยากเป็นครูตั้งแต่เด็ก ๆ และเป็นครูสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์มาตั้งแต่ตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จึงมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ขณะที่มีกฎหมายเรื่องความเท่าเทียมทางเพศตั้งแต่ พ.ศ.2558 โดยในวันที่ 2 พ.ค.นี้ วรวลัญช์จะเดินทางไปยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมภายใต้กลไกการคุ้มครอง คณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
นายชลำ กล่าวว่า ในการบริหารโรงเรียนเอกชน มีเจตนารมณ์ให้โรงเรียนมีอิสระในการบริหารงานบุคคล ตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 จึงกำหนดให้ผู้อำนวยการโรงเรียนมีอำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้งครู ซึ่งโรงเรียนต้องกำหนดเป็นข้อบังคับ หรือระเบียบของโรงเรียนในการรับสมัครสรรหาครู
“กรณีของคุณวรวลัญช์ ทวีการ ในการพิจารณาแต่งตั้งครู โรงเรียนอาจพิจารณาจากจำนวนครูที่เหมาะสม การขาดแคลนครูที่ตรงตามวิชาเอก หรือจากการประเมินหรือสอบแข่งขัน ซึ่งโรงเรียนจะเลือกปฏิบัติเนื่องด้วยเพศสภาพไม่ได้”
อย่างไรก็ตามกระทรวงศึกษาธิการจะได้ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดจากโรงเรียนที่คุณวรวลัญช์ ทวีการ ไปสมัคร เพื่อสร้างความเข้าใจ แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไป
“ทางกระทรวงโดยผู้บริหารระดับสูง ยืนยันว่าไม่สนับสนุนให้เกิดการเลือกปฏิบัติในทุกกรณี โดยเฉพาะเรื่องการสมัครสอบคัดเลือกครู แต่ให้พิจารณาตามที่ทางโรงเรียนมีความต้องการที่ตรงกับคุณสมบัติและสอดคล้องกับการส่งเสริมความเสมอภาคเป็นธรรม” นายชลำ กล่าว