สบส. ย้ำ คลินิก “บิ๊กแจ๊ด” เปิดได้ตามปกติ ไม่ได้ผิด กม. แต่ขอให้ยกเว้นหัตถการ “เจาะเข็ม-ครอบแก้ว” ออกไปก่อน รอแพทยสภา-กรมแพทย์แผนไทยฯ ตอบกลับ หมอพื้นบ้านสามารถทำได้หรือไม่ พร้อมให้กำลังใจ
วันนี้ (28 เม.ย.) นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ประธานมูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง ประกาศให้บริการรักษาผู้ป่วยวันที่ 1 พ.ค. เป็นวันสุดท้าย โดยให้เหตุผลว่า สธ.ไม่มีความชัดเจนเรื่องการตรวจสอบและอนุญาตเปิดเป็นคลินิก ว่า เรื่องนี้สืบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเมื่อหลายเดือนก่อน ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปทุมธานี จึงเข้าไปตรวจสอบและแถลงผลการตรวจสอบไปแล้วว่า วันที่ตรวจสอบทางมูลนิธิฯ มีการขออนุญาตเปิดคลินิกถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีการกระทำผิดในวันที่เข้าตรวจสอบ ดังนั้น จึงสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ แต่มีบางหัตถการที่ต้องตรวจสอบว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ซึ่งเป็นหมอพื้นบ้านสามารถทำได้หรือไม่ คือ
1.การใช้เข็มเจาะระบายน้ำออกจากไขข้อเพื่อรักษาโรคเกาต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบถามไปยังแพทยสภาว่าสามารถทำได้หรือไม่ และ 2.การครอบแก้ว ก็อยู่ระหว่างการสอบถามไปยังกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รวมถึงสอบถามไปยังสภาการแพทย์แผนไทยว่า สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งหน่วยงานทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ตอบกลับมา
“ผมขอให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่ท่านอาจจะน้อยใจ ว่าทำดี ตั้งใจทำเพื่อประชาชน แต่ทำไมถึงถูกตรวจสอบ จึงอยากให้กำลังใจ เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามา จึงต้องทำการตรวจสอบตามกฎหมาย และย้ำว่า ยังสามารถเปิดคลินิกทำหัตถการต่างๆ ได้ แต่การเจาะเข็ม และครอบแก้วอาจจะต้องละเว้น รอผลการตอบกลับจากหน่วยงานที่เราสอบถามไปว่าทำได้หรือไม่” นพ.ณัฐวุฒิ กล่าว
นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่เราต้องตรวจสอบและเข้มงวดเรื่องมาตรฐานวิชาชีพ ก็เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิ ผู้ใจบุญ กลุ่มต่างๆ จะเก็บเงินหรือฟรี ถึงแม้จะบอกว่าทำมาจนชำนาญแล้วแต่ก็ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐาน อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อคุ้มครองท่านด้วย เพราะอาจจะสุ่มเสี่ยงเป็นการก้าวล่วงวิชาชีพอื่นๆ อาจจะเกิดการฟ้องร้องได้ หรือกรณีอาจเกิดความเสียหายจากการทำสิ่งที่เราไม่ได้รับอนุญาตให้ทำได้ตามกฎหมาย จะทำให้คนไม่เชื่อถือ ทำให้เราเองไม่สามารถทำตามความตั้งใจในการช่วยเหลือคนอื่นๆ ต่อไปได้