แพทย์ผิวหนัง รพ.จุฬาภรณ์ เตือนพ่อแม่ทา “ครีมกันแดด” ให้ลูก ชี้ ทาได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ช่วยป้องกันลูกผิวไหม้ เกิดกระ ฝ้า ผิวเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัย เลือกซื้อแบบฟิซิคัล ซันสกรีน ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง สำหรับคนทั่วไปทาครีมกันแดดที่หน้าต้องใช้ 2 ข้อนิ้ว ระบุครีมกันแดดช่วยดักจับฝุ่นไม่ให้ซึมลงผิว จนอาจเกิดภูมิแพ้ ผิวดำคล้ำได้
นพ.รัศม์ฐวัฒน์ ดีสมโชค แพทย์ผิวหนัง รพ.จุฬาภรณ์ กล่าวในเวทีเสวนา “เช็กลิสต์ เคล็ด (ไม่) ลับผิวดี” ในโครงการ “รักษ์นี้เพื่อตาและผิว” ในโอกาสครบรอบ 10 ปี รพ.จุฬาภรณ์ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า แสงจากดวงอาทิตย์ ประกอบด้วย รังสียูวีเอ และยูวีบี คนทั่วไปเข้าใจว่าแสงแดดจะทำให้ผิวหมองคล้ำ แต่จริงๆ ยังทำให้เกิดริ้วรอย กระ และฝ้าด้วย การปกป้องผิว คือ การหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยเฉพาะช่วง 09.00-15.00 น. หรืออาจต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกปีกกว้างห่างจากศีรษะ 1 ฟุต เพราะหากเป็นหมวกแก๊ปจะป้องกันแค่เพียงด้านหน้า การใช้ร่ม หรือการทาครีมกันแดด ทั้งนี้ ที่น่าห่วง คือ เราไม่ได้รับแสงแดดจากดวงอาทิตย์โดยตรง แต่ยังรับรังสีผ่านการสะท้อนของพื้นเข้ามายังหน้าด้วย ซึ่มีข้อมูลว่า การไปทะเลตอนกลางวัน จะมีแดดและรังสีสะท้อนจากทรายมายังผิวเราถึง 30%
นพ.รัศม์ฐวัฒน์ กล่าวว่า การเลือกครีมกันแดด มีข้อแนะนำ คือ 1.เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น หากเป็นคนผิวมันควรเลือกที่เป็นเนื้อเจล หรือเนื้อฟลูอิท ส่วนคนผิวแห้งก็เลือกชนิดที่เป็นครีม 2.ประสิทธิภาพของค่า SPF และ PA โดยค่า SPF จะช่วยป้องกันรังสียูวีบี ที่ทำให้เกิดการไหม้ของผิวหนัง ซึ่งคนไทยหรือคนเอเชียจะเกิดอาการไหม้น้อยกว่า เพราะเม็ดสีผิว โดยเลือกค่า SPF 50 ก็เพียงพอ เพราะพบว่า ค่า SPF สูงๆ เช่น 100 หรือ 200 การกันยูวีบีใกล้เคียงกัน แม้ค่าจะสูงกว่าเท่าตัว แต่ประสิทธิภาพการป้องกันเพิ่มขึ้นแค่ 2% ส่วนค่า PA จะป้องกันรังสียูวีเอ ซึ่งทำให้ผิวหมองคล้ำ ซึ่งคนเอเชียจะเกิดผิวหมองคล้ำได้ง่ายกว่า ดังนั้น ควรเลือกค่า PA ที่มีเครื่องหมายบวก 3 ตัวขึ้นไป เช่น PA+++
3.ปริมาณการใช้ครีมกันแดด ต้องใช้ปริมาณที่ถูกต้อง โดยผิวหน้าใช้ครีมประมาณ 2ข้อนิ้ว หากใช้ไม่ถึงค่า SPF จะลดลง ประสิทธิภาพจะไม่เพียงพอในการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ครีมกันแดดไม่ได้ป้องกันได้ 100% ต้องอาศัยการป้องกันอย่างอื่นด้วย เช่น ใส่หมวก กางร่ม และไม่ใช่ว่าทาครีมกันแดดแล้วจะสามารถไปเดินอยู่กลางแดดได้เลย ถือเป็นความเข้าใจผิด ต้องรอประมาณ 15 นาที เพื่อให้ครีมกันแดดซึมเคลือบผิวหนัง และยิ่งหากทาครีมกันแดดแล้วไปว่ายน้ำหรือดำน้ำ จะต้องทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
ผศ.พญ.ปิยกานต์ ลิมธัญญกูล แพทย์ผิวหนัง รพ.จุฬาภรณ์ กล่าวว่า ที่น่าห่วง คือ เด็กๆ มันเล่นกลางแจ้ง โดยไม่มีการป้องกัน ทำให้เกิดอาการผิวไหม้ แดง ลอกได้ และเมื่อโตขึ้นจะเกิดการสะสม เพราะผิวโดนทำลายเรื้อรัง ทำให้เกิด กระ ฝ้า ผิวเหี่ยวย่น และดูแก่ก่อนวัยได้ ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดให้แก่เด็กด้วย ซึ่งสามารถทาได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยควรเลือกครีมกันแดดแบบฟิซิคัล ซันสกรีน ซึ่งจะสะท้อนแสงแดดออกไป แต่ต้องเลือกแบบไม่มีสารเคมี และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อปกป้องผิวของเด็ก ส่วนหากเด็กเกิดอาการผิวไหม้ควรพบแพทย์ มากกว่าซื้อผลิตภัณฑ์หรือยามารักษาเอง
ผศ.พญ.ปิยกานต์ กล่าวว่า สำหรับมะเร็งผิวหนังมักเกิดจากแสงแดดเป็นส่วนใหญ่ หรือบางคนกินยาบางอย่างก็เกิดขึ้นได้ ลักษณะของมะเร็งผิวหนัง อาจเป็นไฝที่มีอยู่โตเร็ว สีเปลี่ยน กระดำกระด่าง ขอบเขตไม่ชัดเจน สัมผัสมีเลือดออก กดเจ็บ เป็นแผล ผื่นเรื้อรัง ให้ตองสงสัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง อย่างไรก็ตาม จุดที่ไม่โดนแสงแดดก็สามารถเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ซึ่งหากสงสัยให้รีบมารักษา เพื่อเอาชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์ หากรักษาได้ไวก็รักษาหายได้ ซึ่งมีเทคโนโลยีในการรักษา
นพ.ฤทธี สมิทธิ์ฤทธี แพทย์ผิวหนัง รพ.จุฬาภรณ์ กล่าวว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ โดยเฉพาะผิวที่มีรอยแยก เป็นผื่น อย่างสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ เป็นต้น ก็จะยิ่งมีโอกาสเล็ดรอดเข้าไปมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ฝุ่น PM 2.5 แต่สารที่เป็นองค์ประกอบของฝุ่นก็ยังส่งผลกระทบต่อผิวหนัง เช่น บางองค์ประกอบของฝุ่นเข้าไปจับกับโปรตีนชนิดหนึ่งของผิวหนัง ทำให้มีรอยแยกได้เองและซึมลงผิวได้เยอะขึ้น หรือบางองค์ประกอบทำให้กระตุ้นผิวให้เกิดการระคายเคืองและภูมิแพ้ขึ้นมาได้ รวมถึงบางองค์ประกอบอาจกระตุ้นเม็ดสี ทำให้เกิดผิวดำขึ้นได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ฝุ่นขนาดเล็กเราคงป้องกันไม่ได้ จึงต้องเลี่ยงสัมผัสฝุ่น หรืออาจทาครีมกันแดด ซึ่งความเหนียวของครีมกันแดดจะช่วยดักจับฝุ่นละอองเอาไว้ไม่ให้ซึมผ่านผิวหนัง
“นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ ที่ช่วยลดอาการไหม้ของผิวหนัง ซึ่งมีในผักสีเหลือง ส้ม เช่น แครอท พริกหวานสีเหลือง วิตามินซีที่ช่วยสร้างคอลลาเจน ผิวกระจ่างใส และไขข้อกระดูก มีในผลไม้รสเปรี้ยว และวิตามินอี ช่วยเพิ่มความชุ่นชื้นผิว มีในผักต่างๆ ช่วย เนื้อสัตว์บางชนิด เช่น ตับ น้ำมันปลาทะเล เป็นต้น” นพ.ฤทธี กล่าว