xs
xsm
sm
md
lg

"ไอเป็นเลือด" แบบไหนเสี่ยงโรคร้ายแรงให้รีบพบหมอ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สถาบันโรคทรวงอก เตือนไอเป็นเลือด หากปริมาณมากเกิน 2 แก้วครึ่งต่อวัน หรือเป็นฟองมีเลือดเป็นลิ่มๆ ผสมเสมหะ มีเลือดสีคล้ำ มีเศษอาหารผสมคล้ายกากกาแฟ ไอเรื้อรังติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป เสี่ยงโรคร้ายแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไอเลือดออก คือภาวะที่เกิดจากการไอแรงๆ หรือขากแรงๆ จนทำให้เส้นเลือดฝอยที่ผนังคอหอย รวมทั้งเพดานอ่อน ลิ้นไก่ ต่อมทอนซิล ปริแตก จึงทำให้มีเลือดปนออกมากับเสมหะ ซึ่งอาการดังกล่าวไม่มีอันตรายหากหยุดไอแรงๆ หรือหยุดขากแรงๆ แต่ถ้ามีอาการไอ แล้วเลือดที่ออกมาเป็นสีคล้ำดำหรือสีคล้ายเลือดหมูเก่าๆ และมักจะออกมาเป็นก้อนปนกับเสมหะหรือเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง อาจเกิดจากโรคหลอดลมโป่งพอง ฝีในปอด มะเร็งปอด วัณโรค หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ควรรีบไปโรงพยาบาล เพื่อเอกซเรย์ปอด ตรวจเสมหะ และรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง จะทำให้รักษาหายได้เร็วยิ่งขึ้น

นพ.เอนก กนกศิลป์ รักษาการ ผอ.สถาบันโรคทรวงอก กล่าวว่า อาการไอเลือดออก ที่บ่งชี้ว่าควรรีบไปพบแพทย์ คือ ไอเลือดออกปริมาณมาก เช่น ไอครั้งเดียวแล้วมีเลือดสดๆ ออกมาเกิน 1 แก้วน้ำ (ประมาณ 200 ซีซี) หรือ ใน 1 วัน ไอมีเลือดออกเกิน 2 แก้วครึ่ง (ประมาณ 600 ซีซี) และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไอออกมาเป็นฟอง มีเลือดเป็นลิ่มๆ และมีเสมหะผสม ไอเลือดออกมามีสีคล้ำ และมีเศษอาหารผสมคล้ายกากกาแฟ อาจเป็นเลือดที่มาจากทางเดินอาหารที่กำลังมีปัญหา ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง ช่วงตอนบนเหนือระดับสะดือ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และถ่ายอุจจาระดำเหมือนยางมะตอยร่วมด้วย หรือไอเรื้อรังติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป มีอาการไอเลือดออก เจ็บหน้าอก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด มักมีไข้ตอนบ่าย เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ผิวหนังซีดเหลือง เหงื่อออกตอนกลางคืน สันนิษฐานได้ว่ามีความเสี่ยงอาจจะเป็นวัณโรคปอด ดังนั้น หากมีอาการดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อหาสาเหตุและ รับการรักษาได้อย่างถูกต้อง


กำลังโหลดความคิดเห็น