xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ลั่นดำเนินคดี "โจ๋กร่าง" ตีกันใน รพ.ถึงที่สุด เผยเจาะเลือดตรวจแอลกอฮอล์ 50% เกินกำหนด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สธ.เผยเจาะเลือดตรวจแอลกอฮอล์ ช่วงสงกรานต์ 5 วัน รวม 1.8 พันราย พบเกินกำหนด 51% ตรวจสถานบันเทิง ร้านค้า 1.3 พันแห่ง พบมักขายนอกเวลา จัดโปรโมชัน ขายพื้นที่ห้ามขาย ลั่นดำเนินคดีพวกกร่างตีกันใน รพ.ถึงที่สุด

วันนี้ (16 เม.ย.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด กรณีผู้ขับขี่ไม่สามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ด้วยวิธีเป่าทางลมหายใจได้ ในรอบ 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 - 15 เม.ย. 2562 มีผู้ขับขี่ที่ถูกส่งไปเจาะเลือดทั้งหมด 1,814 ราย จำนวนนี้มีปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 51 และในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี พบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดร้อยละ 33 สำหรับผลการสุ่มตรวจสถานประกอบการ ร้านค้าตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ระหว่างวันที่ 11 - 15 เม.ย.2562 รวมทั้งสิ้น 1,301 ครั้ง พบการกระทำผิด 3 อันดับแรก ได้แก่
ขายนอกเวลา โฆษณาส่งเสริมการตลาด และขายในพื้นที่ห้ามขาย ดำเนินการตามกฎหมายทุกราย หากประชาชนพบการกระทำผิด เช่น ขายริมทาง ขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือผู้ที่มีอาการมึนเมา ขายในเวลาห้ามขาย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

นพ.สุขุมกล่าวว่า ในส่วนของ สธ. พร้อมให้การดูแลประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง และได้ร่วมมือเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด่านชุมชน ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนปฏิบัติงานตามมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสกัดผู้ดื่มแล้วขับไม่ให้ออกจากหมู่บ้าน ประชาสัมพันธ์ร้านค้าในหมู่บ้านไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีและผู้ที่เมาสุรา ไม่ขายในสถานที่ห้ามขาย และไม่ขายนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเจาะเลือดตรวจระดับแอลกอฮอล์

"กรณีวัยรุ่นยกพวกตีกันในบริเวณห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วย ญาติ และเจ้าหน้าที่ ตกใจหวาดกลัวถือเป็นการบุกรุกสถานที่ราชการและขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ สธ.จึงร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการ ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมกันนี้ได้เพิ่มมาตรการการดูแลและเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อดูแลประชาชนที่มารับบริการและเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการให้ปลอดภัย” นพ.สุขุมกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น