เมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้ชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่บอกเล่าเรื่องราวของวัยรุ่นชาย-หญิงที่ได้รับการยอมรับจากสิ่งที่เรียกว่า Social media ด้วยภาพลักษณ์ที่เก่งและดูดีในโลกของเกมออนไลน์ ตัดกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริง วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวแทบไม่มีตัวตน ไม่มีเรื่องราวน่าตื่นตาตื่นใจให้ใครได้นึกถึงเลยแม้แต่น้อย ชีวิตในโลกเสมือนช่างแตกต่างจากโลกความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง!
ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องแรกที่บอกเล่าเรื่องราวในลักษณะดังกล่าว แต่ก็ช่วยตอกย้ำถึงภาพสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนและภาพสังคมปัจจุบันที่ผูกติดอยู่กับ Social media หรือ สื่อสังคมออนไลน์ ได้อย่างเหลือเชื่อ ในฐานะที่เป็นสื่อกลางซึ่งเป็นได้ทั้งพลังในทางสร้างสรรค์ที่ช่วยสร้างโอกาสในชีวิตและที่ยืนใหม่ๆให้กับใครหลายๆคน หรือเป็นสิ่งบั่นทอนชีวิตและจิตใจของคนอีกมากมาย
ในโลกของ Social media เพียงแค่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากโลกออนไลน์ในเสี้ยววินาที หรือการพบปะและมีปฏิสัมพันธ์ทางหน้าจอโทรศัพท์กับผู้คนจากทุกมุมโลกที่สัญญาณโทรศัพท์เข้าถึง ก็มีอานุภาพเพียงพอที่จะกำหนดความเป็นไปของชีวิตผู้คนในสังคมปัจจุบันซึ่งยากที่ใครจะเลี่ยงได้ และนี่คืออิทธิพลที่สำคัญ 4 ประการของ Social media ที่คนไทยต้องรู้ก่อนที่จะสายเกินไป
1.โอกาสกับความรับผิดชอบ ผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้โอกาสจากสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอผลงานต่างๆของตัวเองเช่นเดียวกับหลายคน ทุกคนมีโอกาสตรงหน้าที่จะใช้ช่องทางนี้นำเสนอสินค้าที่สามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้ทั่วโลก เสนอข่าวสารและตัวตนของตัวเองแบบที่คนมีชื่อเสียงนิยม เผยแพร่งานเขียนบนโลกออนไลน์แทนการเข้าสำนักพิมพ์ หากล้องวิดีโอดีๆสักตัวแล้วผลิตรายการให้คนได้ติดตาม หรืออะไรก็ตามแต่ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับรูปแบบเดิมๆที่เคยเป็น
อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งที่คนใช้โอกาสเหล่านี้อย่างไม่ระมัดระวัง ขาดความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นการเขียนแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นในทางเสียหาย การนำเสนอผลงานที่มีเนื้อหาล่อแหลมหรือชักจูงผู้ชมไปในทางไม่เหมาะสม การสร้างกลุ่มเฉพาะที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของสังคม ตลอดจนใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งการพนัน การขายของผิดกฎหมาย หรือการขายบริการทางเพศ ซึ่งยังคงเป็นเรื่องยากในการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางสังคมที่ตามมา
2.เข้าถึงหรือครอบงำ สื่อสังคมออนไลน์ถือเป็นช่องทางในการทำการตลาดชั้นดีทั้งในทางธุรกิจ สังคมและการเมือง โดยเข้ามาแทนที่สื่อหลักในอดีตอย่างหนังสือพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ได้แบบก้าวกระโดด เนื่องจากสามารถเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกสาขาอาชีพได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ ไม่ว่าจะกินหรือเข้านอน เข้าห้องน้ำหรือเดินทาง เพียงมีโทรศัพท์มือถือกับสัญญาณอินเตอร์เน็ท เราก็สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ซื้อสินค้า หรือติดตามเทรนด์ต่างๆในโลกใบนี้ได้แทบจะในทันที
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มธุรกิจหรือแม้แต่กลุ่มการเมืองจึงหันมาใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อสร้างกระแสให้เกิดความนิยมชมชอบในสินค้า บริการ หรือกระทั่งการปลุกระดมความเชื่อทางการเมือง โดยกรอกข้อมูลใส่สมองจนจำติดใจและหลงไปกับโฆษณาชวนเชื่อทั้งหลายอย่างไม่รู้ตัว หลายครั้งที่ความขัดแย้งต่างๆก่อตัวขึ้นจากความต้องการครอบงำความคิดและพฤติกรรมของผู้คน จึงต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองได้มีสติและปัญญาแยกแยะการรับข้อมูลข่าวสารเพื่อป้องกันการตกเป็นเครื่องมือทางการตลาดในลักษณะนี้
3.สร้างสรรค์หรือทำลาย ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ถูกใช้เป็นช่องทางในทางสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับสังคมได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการเตือนภัยให้กับคนในสังคมได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ซึ่งทำให้เกิดความตื่นตัวเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้อย่างทันท่วงที การส่งต่อข้อมูลข่าวสารเพื่อระดมความช่วยเหลือให้กับกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและผู้ที่กำลังเดือดร้อน หรือการนำเสนอข้อความหรือหลักฐานที่แสดงถึงการกระทำผิดกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ
แต่หลายครั้งคนในสังคมก็อาจรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อพบว่าตัวเองถูกหลอกลวงจากคนบางกลุ่มที่ใช้เป็นพื้นที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ทำให้เกิดความไขว้เขวต่อข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์บางประการ หรือเป็นเพียงความต้องการที่จะใช้เป็นพื้นที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายเพื่อระบายความไม่พอใจ ต้องการประจานคู่กรณีจากความขัดแย้งส่วนตัวจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความเสื่อมเสียให้กับผู้อื่น ซึ่งไม่ช่วยสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับส่วนรวมแต่อย่างใดและเป็นช่องโหว่สำคัญที่ไปบั่นทอนความน่าเชื่อถือของสื่อสังคมออนไลน์
4.แรงบันดาลใจหรือภาพลวงตา ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์มักเป็นที่ที่ถูกวิจารณ์ว่าเต็มไปด้วยภาพถ่ายและบทบรรยายที่บอกเล่าการใช้ชีวิตที่ดูดีมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวต่างประเทศ รูปถ่ายอาหารน่ารับประทาน หรือกิจกรรมแปลกใหม่ เป็นที่น่าอิจฉาแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง หากแยกแยะไม่ได้บางคนก็อาจค่อนขอดว่าเป็นเพียงภาพลวงตา ไม่จำเป็นต้องอิจฉา แต่ในใจกลับไม่มีความยินดี รู้สึกเป็นทุกข์และน้อยใจในเส้นทางชีวิตของตัวเองก็มีไม่น้อย ยิ่งทำให้จิตใจและความรู้สึกแย่ลงไปอีก
หากมองโลกในแง่ดีก็คงไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใดที่ใครๆต่างก็ต้องการนำเสนอสิ่งดีๆให้คนอื่นพบเห็น ยิ่งต้องเชื่อมโยงกับผู้คนบนโลกเสมือนนี้มากเท่าไรก็ยิ่งหลีกหนีไม่พ้นกับสิ่งเหล่านี้ การอยู่ในโลกออนไลน์จึงถือเป็นการสร้างความมั่นคงทางจิตใจ ไม่ว่าสิ่งที่เห็นจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ไม่ควรให้โลกเสมือนเข้ามามีอิทธิพลทางลบต่อความคิดและจิตใจของเราจนเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ตรงกันข้าม ควรรู้สึกยินดีและใช้สิ่งที่ดูดีมีความสุขเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจและเป็นแรงผลักดันตัวเองให้ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
พลังของ Social media ไม่เพียงแต่มีอิทธิพลที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างผู้คนกลุ่มต่างๆแล้ว ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าเราในฐานะที่ต้องใช้ชีวิตทั้งบนโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนที่สร้างขึ้นใหม่นี้โดยยากที่จะหลีกเลี่ยง จำเป็นต้องรู้เท่าทันประโยชน์และผลกระทบ รวมทั้งเตรียมจิตใจให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และพยายามที่จะใช้มันในทางที่เป็นคุณแก่ตนเองและสังคม อย่าใช้ให้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างผู้ใดเลย