เตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองในช่วงหน้าร้อนและปิดเทอมนี้ ต้องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กชวนกันไปเล่นน้ำกันเองตามลำพัง โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ และหลังสงกรานต์เด็กอาจชวนกันไปลงเล่นน้ำตามจุดต่างๆ เสี่ยงจมน้ำเสียชีวิตได้
วันนี้ (6 เม.ย.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์การจมน้ำในประเทศไทย ปี 2562 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 3 เมษายน 2562 มีการแจ้งเหตุพบคนจมน้ำ 19 ครั้ง เสียชีวิต 37 ราย โดยกลุ่มอายุที่จมน้ำสูงสุด คือ 6-12 ปี และ 13-19 ปี ซึ่งอยู่ในวัยเรียน ส่วนใหญ่เกิดในแหล่งน้ำธรรมชาติเช่น คลอง แม่น้ำ บึงต่างๆ โดยในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการแจ้งเหตุคนจมน้ำรวม 8 ครั้ง เสียชีวิต 14 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กในวัยเรียนเช่นกัน”
การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 7-13 เมษายน 2562 คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสพบเหตุการณ์จมน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงเดือนเมษายนนี้ เป็นฤดูร้อนและอยู่ในช่วงปิดเทอม เด็กๆ มักชวนกันไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ประกอบกับใกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ จะมีการรวมกลุ่มเล่นน้ำสงกรานต์และชักชวนกันไปเล่นน้ำตามแหล่งธรรมชาติหลังเล่นน้ำ จึงอาจมีเหตุการณ์คนตกน้ำหรือจมน้ำเสียชีวิตได้
กรมควบคุมโรค จึงขอเตือนผู้ปกครองว่าในช่วงนี้ควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กชวนกันไปเล่นน้ำตามลำพัง ควรสอนให้เด็กมีทักษะการเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในน้ำ การจัดการกับแหล่งน้ำให้เกิดความปลอดภัย เช่น ติดป้ายประกาศ สร้างรั้วรอบแหล่งน้ำ มีห่วงยาง เชือกในบริเวณแหล่งน้ำ (อุปกรณ์พร้อมใช้ ไม่ชำรุด) และควรเตือนบุตรหลานให้เด็กรู้ว่าแหล่งน้ำตามธรรมชาติอาจมีอันตราย
หากพลัดตกน้ำ หรือจมน้ำเสียชีวิตได้ หากพบเห็นคนตกน้ำไม่ควรกระโดดลงไปช่วย เพราะอาจจมน้ำพร้อมกันได้ แต่ขอให้ช่วยด้วยการใช้มาตรการ “ตะโกน โยน ยื่น” ได้แก่ 1.ตะโกน คือ เรียกให้ผู้ใหญ่มาช่วยและโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669 2.โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อช่วยคนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้โดยโยนครั้งละหลายๆ ชิ้น และ 3.ยื่นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ไม้ เสื้อ ผ้าขาวม้า ให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นมาจากน้ำ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422