“ชลำ” ออกโรงยันผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ไม่มีเอี่ยว หลังมีข่าวพบทุจริตเงินอุดหนุนรายหัวจ.ชายแดนใต้ ยันมีระบบตรวจสอบรายชื่อเด็ก จำนวนเด็กก่อนจ่ายเงินทุกเดือน ไม่ได้โอนงบเป็นก้อนใหญ่ ส่วนกรณีเบิกเงินอุดหนุนซ้ำซ้อนส่งคืนให้แผ่นดินครบแล้ว
วันนี้ (4 เม.ย.) นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งมีพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้สอบถามถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีการทุจริตเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการจ่ายเงินเดือนครูไม่ตรงตามวุฒิการศึกษา มีเด็กผี มีครูผี ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอ้างว่ามีผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ที่มีอำนาจหน้าที่แก้ไขกฎระเบียบของ ศธ.ให้สอดรับกับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน เพื่อเอื้อต่อการกระทำดังกล่าว โดย รมช.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ตนไปตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะถือว่าเรื่องนี้สร้างความเสียหายแก่ ศธ. ซึ่งตนขอยืนยันความบริสุทธิ์ของผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ว่าไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง และความจริงแล้วการจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบหลายฝ่าย เช่น ฝ่ายความมั่นคงและ ศธ. เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ก็มีการตรวจสอบการใช้เงินอุดหนุนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนมั่นใจว่าระบบการจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวของ สช.สามารถป้องกันการรั่วไหลได้ เพราะมีการตรวจสอบรายชื่อเด็ก จำนวนเด็กเป็นรายเดือน ก่อนจ่ายเงินทุกเดือน ไม่ได้โอนงบประมาณไปเป็นก้อนใหญ่ๆ ปีละครั้ง ดังนั้น โอกาสที่มีเด็กผีในโรงเรียนจึงยาก
นายชลำ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่โรงเรียนเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยมีการเบิกเงินอุดหนุนฯซ้ำซ้อนนั้น ตั้งแต่ปี 2557 สช.และทางโรงเรียนได้ร่วมกันเช็คข้อมูล โดยโรงเรียนเอกชนที่มีการเบิกเงินซ้ำซ้อนก็ได้มีการส่งเงินคืนแผ่นดินครบหมดแล้ว 100% โดยมีเงินคืนถึง 115 ล้านบาท ทั้งนี้ ในภาคใต้ผู้ปกครองนิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนเอกชน เพราะต้องการให้เรียนศาสนาควบคู่กับวิชาสามัญด้วย แต่ยอมรับว่าขณะนี้โรงเรียนมีจำนวนเด็กเข้าเรียนลดลง เนื่องจากอัตราการเกิดที่ลดลง ส่งผลให้บางโรงเรียนยังมีปัญหาการจ่ายเงินเดือนครู เนื่องจากโรงเรียนมีเด็กน้อย โดย สช.ได้แจ้งไปยังโรงเรียนให้พยายามลดจำนวนครูให้สอดคล้องกับจำนวนเด็ก และมีโรงเรียนที่ยังมีปัญหาจ่ายเงินเดือนครูไม่เต็มวุฒิอยู่เยอะ โดยให้เหตุผลว่าเงินอุดหนุนฯที่ได้รับไม่พอจ่ายเงินเดือนครูให้เต็มตามวุฒิ ซึ่ง สช.ได้ส่งหนังสือเพื่อสร้างความเข้าใจแล้วว่า ไม่ควรทำให้ครูเสียสิทธิและทำผิดกฎหมาย ซึ่งหาก สช.พบก็จะดำเนินการทุกรายไม่ยกเว้นเพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งตนเชื่อว่าในที่สุดหากไม่มีเด็กเข้าเรียนโรงเรียนเหล่านี้จะต้องปิดตัวลง