สบส.ยันไม่มีกลั่นแกล้งสมาคมฯ ยันกฎหมายกำหนดชัดใครขอเปิดสอนนวด ต้องขออนุญาต จะใช้ชื่อสมาคมฯ แล้วไปขยายสาขาไม่ได้ ชี้หากศูนย์อบรมเอาชื่อสมาคมไปใช้จริง เท่ากับเป็นที่อบรมเถื่อน จึงต้องสั่งระงับเพื่อตรวจสอบ
ความคืบหน้ากรณีสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ออกมาชี้แจงไม่ได้มีการเปิดสาขาแฟรนไชส์ในการสอนหมอนวด แต่ยอมรับมีคนนำชื่อไปใช้ และไม่มีการซื้อขายใบประกาศนียบัตร แต่มีการออกใบประกาศฯ ให้ศูนย์ฝึกหมอนวดอื่น เพราะมองเรื่องคุณธรรม และไม่เห็นคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรว่า เรียนที่ไหนที่นั่นต้องออกใบประกาศ และจะฟ้องกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ที่สั่งระงับขึ้นทะเบียนหมอนวด ทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินถูกผิด และยังไม่ครบเวลาที่ขอขยายชี้ 30 วัน
วันนี้ (3 เม.ย.) นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า สบส.ส่งหนังสือถึงสมาคมฯ มา 2 ฉบับแล้ว เขาอาจจะหยิบเอาฉบับสุดท้ายมากล่าวถึงหรือไม่ ซึ่งย้ำว่า สบส.คงไม่ทำอะไรที่ไม่ครบตามกรอบเวลา ก่อนหน้านี้ สมาคมฯ มีหนังสือตอบกลับมาว่า จะไม่มาชี้แจงจนกว่า สบส.จะยกเลิกคำสั่งระงับห้ามขึ้นทะเบียนหมอนวดที่มีใบประกาศนียบัตรของสมาคมฯ อย่างไรก็ตาม หากสมาคมฯ คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็เป็นสิทธิของสมาคมฯ ที่จะฟ้องร้อง สบส.ได้ ซึ่งเราพร้อมที่จะชี้แจง
เมื่อถามถึงกรณีสมาคมฯ ระบุว่าหมอนวดเกือบแสนรายที่ถูกระงับขึ้นทะเบียน ไม่ได้มีแค่ของสมาคมฯ นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า หมอนวดเกือบแสนคนที่ สบส.สั่งระงับ เป็นผู้ที่มีใบประกาศฯ จากสมาคมฯ ที่เดียวเท่านั้น ที่อื่นไม่มีปัญหา ทั้งนี้ พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ที่ออกมานั้น ผ่านการรับฟังความเห็นมาอย่างรอบด้าน และมีบทเฉพาะกาลที่เปิดช่องให้ผู้ถือใบประกาศนียบัตรรับรองการนวดที่เคยมีก่อนกฎหมายนี้จะออก มาขึ้นทะเบียนได้ฟรีภายใน 180 วัน เพื่อจะนำเข้าสู่ฐานระบบตามกฎหมายใหม่ ซึ่งแต่ละหน่วยงานเขาก็มาขึ้นทะเบียนกันทั้งนั้น หมอนวดที่มีใบประกาศจากสมาคมแพทย์แผนไทยฯ เองก็มีมาขึ้นทะเบียนเช่นเดียวกัน ตัวเลขคร่าวๆ น่าจะหลักหมื่นคน แต่หลังจากนั้น สบส.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีการอบรมไม่ถูกต้อง มีการไปอบรมตามสาขาต่างๆ จึงต้องสั่งระงับเพื่อดำเนินการตรวจสอบ โดยสั่งให้ สสจ. ไปตรวจสอบโรงเรียนนวดที่เป็นแฟรนไชส์ทั้งหลายว่า ไม่สามารถทำในนามสมาคมฯ ได้ ต้องมาขึ้นทะเบียนเอง เพราะเราต้องมีการตรวจสถานที่ ตรวจมาตรฐานวิทยากรหรือครูนวด จะมาอนุมัติที่เดียวแล้วไปขยายสาขาเองไม่ได้
เมื่อถามว่า มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ว่าสอนนวดที่ไหน ที่นั่นต้องเป็นผู้ออกใบประกาศฯ นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นกฎหมายอยู่แล้ว ใครมาขออนุญาตเปิดหลักสูตรการสอนก็ต้องสอนตามที่ได้รับอนุญาต จะมาขออนุญาตในนามสมาคมฯ แล้วจะไปให้สาขาตามต่างจังหวัดอบรมแทนไม่ได้ ถ้าบอกว่านั่นไม่ใช่สาขา แต่ไม่ขัดข้องที่จะเอาชื่อสมาคมไปใช้ หรือมีการแอบอ้างเอาชื่อไปใช้ แสดงว่าศูนย์นวดเหล่านั้นเป็นที่อบรมเถื่อน เพราะไม่ได้ขออนุญาต ไม่ทราบว่าได้ชื่อมาได้อย่างไร ทำไมถึงเอาชื่อสมาคมฯ ไปใช้ เป็นเรื่องระหว่างสมาคมฯ กับศูนย์เหล่านั้น แต่เมื่อสบส.ไปเจอว่ามีการใช้ชื่อสมาคมฯ แบบนี้ก็ต้องสั่งระงับเพื่อตรวจสอบ
“ยืนยันว่า ที่ สบส.ดำเนินการอยู่ขณะนี้ เป็นมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เพราะว่าคนที่มาขออนุญาตเปิดสอน 240 กว่าแห่ง ก็ทำตามกฎหมายหมด และทุกอย่างไม่ได้ทำตามดุลยพินิจ แต่ทำในรูปของกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่มีผู้แทนทุกภาคส่วนทั้งนักกฎหมาย ตำรวจ ครูบาอาจารย์ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาคอยพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากบอกว่าไม่ยอมรับกรรมการฯ ก็ไม่ทราบเหมือนกัน ดังนั้นหากจะฟ้องร้อง กรมก็พร้อมเพราะทีมกฎหมายเราก็มีหลักฐานเรียบร้อยอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเราใช้วิธีการส่งหนังสือให้เขามชี้แจงก่อน หากเขาชี้แจงได้เราก็พร้อมขึ้นทะเบียนให้” นพ.ณัฐวุฒิ กล่าว