xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดก.ค.ศ.ไฟเขียว สพฐ.ทำหลักเกณฑ์สรรหาผอ.ร.ร.-เขตพื้นที่ฯ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


มติบอร์ดก.ค.ศ. เห็นชอบ สพฐ.กำหนดเกณฑ์สรรหา ผอ.ร.ร.-ผอ.เขตพื้นที่ฯ เองได้ พร้อมเปิดช่องให้ อาจารย์สอนป.ตรี อาชีวะขอตำแหน่งวิชาการ ผศ.-ศ.

วันนี้ (27 มี.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือกรณี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยกเลิกแบบประเมินความดีความชอบปี 2562 ซึ่งมี 3 ด้าน 13 แฟ้ม เนื่องจากสร้างภาระและความยุ่งยากให้กับครูผู้รับการประเมิน โดยได้เห็นชอบแบบประเมินฯใหม่ ซึ่งไม่เป็นภาระครู และให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาเป็นผู้ประเมิน ซึ่งการประเมินจะมีขั้นตอนการตรวจสอบตามลำดับขั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและจะเริ่มใช้ประเมินกับครูตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561- 31 มี.ค.2562 นี้

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมติเห็นชอบเรื่องสำคัญ คือ การคัดเลือกครู ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ตามมาตรา 50 ในกรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษที่ คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา ไม่สามารถดำเนินการสอบแข่งขันได้ หรือการสอบแข่งขันอาจทำให้ไม่ได้บุคคลต้องตามประสงค์ของทางราชการ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ อาจคัดเลือกบุคลากรเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาโดยวิธีอื่นได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก.ค.ศ.กำหนด ในกรณี ดังนี้ กรณีมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีมีสัญญาณผูกพันตามโครงการพิเศษ /นักเรียนทุน กรณีการบรรจุในพื้นที่เกาะ บนภูเขาสูง เสี่ยงภัย หรือพื้นที่พิเศษ หรือการบรรจุและแต่งตั้งในสถานศึกษาที่มีลักษณะพิเศษ ตามที่ส่วนราชการกำหนด และกรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษอื่น ๆ ที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) /อ.ก.ค.ศ. อนุมัติ โดยมีเงื่อนไข คือ บรรจุและแต่งตั้งผู้ได้รับคัดเลือกที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่ง สำหรับกรณีการบรรจุในพื้นที่เกาะ บนภูเขาสูง เสี่ยงภัยฯ มีเงื่อนไขว่าต้องอยู่ในสถานศึกษาที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งไม่น้อยกว่า 4 ปี

“เป็นครั้งแรกที่ยกร่างหลักเกณฑ์การคัดเลือกครู ตามมาตรา 50 ซึ่งเป็นมาตราที่งดงาม ให้ได้มีการใช้ตามกฎหมายอย่างแท้จริง เพื่อให้แต่ละพื้นที่สามารถคัดเลือกครูที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ ทั้งในพื้นที่ห่างไกล เสี่ยงภัย หรือแก้ปัญหา กรณีประกาศรับครูในสาขาวิชาที่ไม่มีผู้มาสมัคร ทั้งนี้ การพิจารณารับครูตามาตรา 50 จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และ กศจ.ต้องสามารถชี้แจงเหตุผลได้ ไม่ใช่เลือกจากความชอบ หรือ ใครมาสั่ง การดำเนินการต้องทำเป็นองค์คณะ หากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด หรือถูกร้องเรียน ว่า เป็นการบรรจุที่ผิด ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบกระจายอำนาจให้ส่วนราชการต้นสังกัด อย่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่สามารถกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อำนวยการ สพท.เองได้ โดยจะเริ่มดำเนินการในคัดเลือกรอบต่อไป ส่วนสำนักงานก.ค.ศ. จะทำหน้าที่คล้ายสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) คอยกำกับดูแลกำหนดมาตรฐานตำแหน่ง และยังเห็นชอบตามที่ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เสนอ ร่างมาตรฐานตำแหน่งศาสตราจารย์ในสถาบันการอาชีวศึกษา โดยให้นำมาตรฐานภาระงานทางวิชาการของผู้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ ตามประกาศของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) มาบังคับใช้กับสถาบันการอาชีวศึกษาได้

“ผมได้สั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ทบทวนคำสั่งตามอำนาจหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2557 (ฉบับชั่วคราว) ที่เกี่ยวข้องกับศธ. ทั้งหมด ก่อนที่คสช.จะพ้นจากตำแหน่ง โดยในส่วนของอำนาจการบรรจุแต่งตั้ง ตามมาตรา 53(3) และ (4) ซึ่งคำสั่ง คสช. กำหนดให้เป็นของ ศธจ.โดยความเห็นชอบของ กศจ. จากเดิมที่เป็นอำนาจของผู้อำนวยการการ สพท.และผู้อำนวยการโรงเรียน ก็จะมีการทบทวน รวมถึง มีการกำหนดไว้ในร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู ฯ ที่กำลังปรับปรุงใหม่ เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น