หาก "พีระมิด" ที่สร้างจากโลหะและกระจก เป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดมสีเงินขนาดยักษ์ก็เป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์แห่งอาบูดาบีเช่นกัน ซึ่งใครที่มาเที่ยวกรุงอาบูดาบี สหรัฐอเาหรับเอมิเรตส์ อีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมาเยือน คือ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์อาบูดาบี ซึ่งได้ซื้อลิขสิทธิ์ชื่อมาจากประเทศฝรั่งเศส
ลูฟร์ อาบูดาบี มีรูปแบบอาคารเป็นลักษณะโดมสีเงินสะท้อนวัฒนธรรมและศิลปะแบบตะวันออกกลาง เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิกชาวฝรั่งเศส "ฌอง นูแวล" มีเนื้อที่ประมาณ 24,000 ตารางเมตร หรือ 260,000 ตารางฟุต ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรอาหรับ ตั้งอยู่บนเกาะซาดิยัต โอบล้อมด้วยน้ำทะเลสดใส และความพิเศษของหลังคาโดมสีเงินที่จะสะท้อนแสงระยิบระยับเมื่อแสงแดดสาดส่องลงมา ซึ่งช่วยลดความร้อนภายในได้อย่างดี
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อาบูดาบี ใช้งบประมาณในการก่อสร้างราว 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.29 หมื่นล้านบาท โดยใช้งบประมาณ 500 กว่าล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในชื่อพิพิธภัณฑ์ และสร้างความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์แห่งฝรั่งเศส ทำให้หยิบยืมผลงานบางส่วนจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในฝรั่งเศสและเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในฝรั่งเศสมาจัดแสดงกว่า 300 ชิ้น ทั้งงานศิลปะ จิตรกรรม ประติมากรรม และงานประดิษฐ์ล้ำค่าต่างๆ โดยพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อาบูดาบี เปิดอย่างเป็นทางการวันแรก เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2560
ภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อาบูดาบี ประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงและนิทรรศการ โดยมีห้องจัดแสดงภาพถาวร 23 ห้อง พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ บรรจุชิ้นงานทางศิลปะมากกว่า 600 ชิ้น แบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน เช่น หมวดหน้ากากโบราณ หมวดประติมากรรม หมวดโลหะ หมวดเซรามิก หมวดคัมภีร์และอักษรโบราณ เป็นต้น ทำให้สามารถเปรียบเทียบศิลปะในหมวดเดียวกัน แต่ต่างยุค ต่างช่วงเวลา และต่างวัฒนธรรมคนละซีกมุมโลกกันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่นที่มีการจัดแสดงแบ่งออกเป็นตามยุคสมัย
การจัดแสดงศิลปะและโบราณวัตถุต่างๆ มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าใช้ประกอบการจัดแสดง ทั้งสื่อมัลติมีเดีย ที่แสดงบนจอทัชสกรีน สามารถเลือกกดอ่านข้อมูลรายละเอียดของผลงานต่างๆ ได้ รวมถึงการออกแบบสื่อสำหรับผู้พิการทางสายตาให้สามารถมีส่วนร่วมและสัมผัสไปกับผลงานศิลปะที่จัดแสดงได้ด้วย ซึ่งนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ถึงกับออกปากว่า จะส่งเจ้าหน้าที่ด้านภัณฑารักษ์และไอทีระดับหัวกะทิ มาเรียนรู้การบริหารจัดการและการจัดแสดง เพื่อนำกลับมาปรับใช้กับพิพิธภัณฑ์ในการกำกับดูแลของ วธ. รวมถึงอาจประสานขอความร่วมมือในการยืมผลงานเด่นหรือมาสเตอร์พีซมาจัดแสดงที่ประเทศไทย ในหอศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยแห่งใหม่ภายใต้การดูแลของ วธ. ซึ่งมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2563
สำหรับผลงานที่จัดแสดง มีทั้งโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่มีอายุเก่าแก่หลายพันปี ไปจนถึงผลงานของศิลปินชื่อดังก้องโลกจำนวนมาก ทั้ง แวน โก๊ะ , ปิกัสโซ ศิลปินชาวอเมริกันอย่าง เจมส์ แอบบ็อตต์ แม็คนีลล์ วิสต์เลอร์ รวมไปถึงผลงานของศิลปินจีน อย่าง อ้ายเว่ยเว่ย อีกด้วย
