บอร์ดคุมเหล้าระดับชาติ มีมติเลื่อนเคาะห้ามขายเหล้าวันที่ 13 เม.ย. ออกไปอีก 2 สัปดาห์ หลังประธาน “บิ๊กฉัตร” ไม่เข้าร่วมประชุม สั่งหาข้อมูลข้อดีข้อเสียรอบด้านให้พร้อม เผยสงกรานต์เน้นบังคับใช้กฎหมายเข้มขึ้น ประสานผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ตั้งทีมเฉพาะกิจคุมเข้มห้ามขายเกินเวลา ขายเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จัดโซนนิง รถเข็นขายเหล้าในงานรื่นเริง
หลังจากคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีมติเสนอมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันที่ 13 เม.ย. เพื่อลดอุบัติเหตุจราจรจากการเมาแล้วขับ โดยจะเสนอคณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ ซึ่งมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้ความเห็นชอบ เพื่อออกเป็นประกาศบังคับใช้ต่อไป
วันนี้ (15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สถาบันบำราศนราดูร ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติ พล.อ.ฉัตรชัย ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม แต่มอบให้ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมแทน โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
นพ.ปิยะสกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานมาตรการลดอุบัติเหตุจราจรต่างๆ ช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า ยังได้ผลดี และจะดำเนินการต่อไปในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ แต่ก็มีการเสนอมาตรการต่างๆ เพิ่ม โดยเฉพาะเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งควรจะเข้มข้นตลอดทั้งปีอยู่แล้ว แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีคนพยายามทำผิดกฎหมายมากขึ้น เช่น การขายเกินเวลา การขายให้เยาวชนอายุไม่ถึงกำหนด ทำให้เกิดการบาดเจ็บในเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีจำนวนมาก ตรงนี้ต้องคุมเข้มด้วย นอกจากนี้ ต้องเรื่องของโซนนิงที่จัดสงกรานต์ ก็อยากจะขอให้ร้านต่างๆ ร่วมมือไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า นอกจากนี้ ขอให้คุมเข้มเรื่องรถเข็นที่จะเข้ามาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานรื่นเริงต่างๆ ต้องถูกจับ เพราะผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ยังมีการทำในหลายจังหวัด จึงได้ขอให้กระทรวงมหาดไทย ประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการอย่างเข้มข้น ร่วมกับกรมสรรพสามิต และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด ตั้งหน่วยเฉพาะกิจลงมาดูควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ด้วย และขอให้บังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น เช่น การสวมหมวกนิรภัยขณะขับรถจักรยานยนต์ ซึ่งหากกฎหมายทั้งหมดทำด้วยเข้มข้นจริงจัง ก็จะลดอัตราเจ็บตายของประชาชนในช่วงเทศกาลลงได้
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ส่วนมาตรการเรื่องห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่ 13 เม.ย. หรือไม่นั้น เนื่องจากประธานตัวจริงไม่ได้เข้าร่วมประชุม จึงมีมติให้จัดประชุมเรื่องนี้โดยเฉพาะอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยระหว่างนี้ให้ไปจัดทำข้อมูลผลกระทบต่างๆ มาว่า มีข้อดีข้อเสียอย่างไร หากไม่ให้ขายคนจะเจ็บตายน้อยลงขนาดไหนจากข้อมูลที่แล้วๆ มา หรือผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไรบ้าง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลใครหรือไม่ ต้องมาดูให้ครบถ้วนแล้วนำเสนอ เราไม่ทำอะไรที่ใช้อารมณ์ที่เราอยากจะทำอย่างเดียว ขอให้รออีก 2 สัปดาห์แล้วจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ เพื่อพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง
เมื่อถามว่า เกี่ยวกับกระแสการต้านด้วยหรือไม่ และเลื่อนการพิจารณา 2 สัปดาห์จะทันกับช่วงสงกรานต์หรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ไม่ได้ดูแรงต้านหรือไม่ต้าน แต่ต้องการดูข้อมูลสนับสนุนว่า สิ่งที่เราทำเห็นด้วยกันเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ถึงสงกรานต์ก็น่าจะทัน ช่วง 2 สัปดาห์ก็หาข้อมูลมาให้ทัน เพราะการออกกฎระเบียบอะไร ส่วนใหญ่คนควรจะเห็นด้วย ไมใช่ก่อให้เกิดปัญหา ซึ่งเราไม่ได้เร่งขนาดนั้น