หมอโภชนาการ ยื่น อย.เพิกถอนยาลดความอ้วน "เฟนเตอร์มีน" จากบัญชียาหลักฯ ชี้มีอันตราย มียาอื่นทดแทนแล้ว ระบุอังกฤษก็เพิกถอนแล้ว เพราะพบการขายในอินเทอร์เน็ต
วันนี้ (15 มี.ค.) นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมโภชนาการ เพื่อกีฬาและสุขภาพ พร้อมด้วย รศ.พ.ต.ดร.รุ่งชัย ชวนไชยะกุล นายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬาและสุขภาพแห่งเอเชีย เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อยื่นหนังสือถึง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย. เพื่ขอให้เพิกถอนยาลดความอ้วน "เฟนเตอร์มีน" ออกจากบัญชียาหลักแห่งชาติ หลังพบมีการลักลอบนำมาขายโดยแพทย์ โดยมีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง
นพ.ฆนัท กล่าวว่า ขอให้ อย.เพิกถอนยาดังกล่าวออกบัญชียาหลักฯ เนื่องจากพบว่า ก่ออันตราย และปัจจุบันมียาอื่นที่สามารถทดแทนยาลดความอ้วนเฟนเตอร์มีนได้ดี มีประสิทธิภาพเช่นกัน และไม่ก่ออันตรายอย่างยาเบาหวาน เพราะยาเฟนเตอร์มีน หากใช้ไปสักระยะหนึ่งอาจเกิดอาการติดได้ ต้องใช้ในระยะเวลาอันสั้นๆ ใช้ไปนานๆ คอจะแห้ง และเกิดการดื้อยา เพราะจัดอยู่ในกลุ่มยาแอมเฟตามีน โดยการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ยังคงเป็นการปรับพฤติกรรม ส่วนเรื่องที่มีแพทย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการลักลอบจำหน่ายยาลดความอ้วนเหล่านี้ เชื่อว่า ส่วนหนึ่งแพทย์อาจเห็นว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจ แต่อีกส่วนหนึ่งอาจไม่เท่าทันเรื่องข้อกฎหมาย
รศ.พ.ต.ดร.รุ่งชัย กล่าวว่า ขณะนี้ในประเทศอังกฤษได้มีการยกเลิกใช้ยาลดความอ้วนดังกล่าวแล้ว เมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากก่ออันตราย และมีการลักลอบจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ต โดยการลดน้ำหนักทั่วโลก ขณะนี้พบว่า พฤติกรรมของกลุ่มคนที่มีน้ำหนักเกิน มักพึ่งยามากกว่าปรับพฤติกรรมการบริโภค ทำให้อาจได้รับอันตรายจากยาได้ โดยข้อบ่งใช้ ยาเฟนเตอร์มีน ควรทำในกลุ่มคนที่มีค่าดัชนีมวลกายเกิน 30 เท่านั้น คนทั่วไปไม่ควรรับประทาน เช่นเดียวกับกลุ่มคนที่ไม่ได้ป่วยเบาหวานก็ไม่ควรรับประทานยาลดน้ำหนักในกลุ่มเบาหวานมากเกินไป เพราะมีผลกับน้ำดี ดังนั้น การใช้ยาลดความอ้วน เพื่อลดน้ำหนักในกลุ่มคนที่มีปัญหาสุขภาพ ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ และแพทย์ต้องผ่านการฝึกอบรมการใช้ยา
นพ.ธเรศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดและเนื้อหาในหนังสือที่มีการขอให้ยกเลิกการจำหน่ายยาลดความอ้วน เฟนเตอร์มีน อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในคณะกรรมการยา เนื่องจากยาลดความอ้วนกลุ่มนี้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภทที่ 2
