xs
xsm
sm
md
lg

แพทยสภาจ่อสอบ 2 หมอพัวพันขาย "ยาลดความอ้วน" หากผิดจริงมีโทษภาคทัณฑ์ถึงเพิกถอนใบอนุญาต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แพทยสภาเตรียมสอบจริยธรรม 2 หมอ พัวพันลอบขายยาลดความอ้วน หากผิดจริงมีโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ถึงเพิกถอนใบอนุญาต ขึ้นกับความผิดเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน เตือนหมอรุ่นใหม่คิดรอบคอบก่อนทำอะไร หากไม่อยากเสียอนาคต

วันนี้ (13 มี.ค.) พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์กรณีตำรวจออกหมายสมคบแพทย์ 2 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่ายลักลอบขายยาลดความอ้วน "เฟนเตอร์มีน" ว่า แพทย์ทั้ง 2 รายนั้น ขณะนี้ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งทางแพทยสภาได้ประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว เพื่อขอหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งในวันที่ 14 มี.ค. 2562 จะมีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ก็จะนำเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ปรากฏในสื่อมวลชนเข้าสู่วาระการประชุมด้วย โดยอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจริยธรรมขึ้น เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวว่า แพทย์ที่เกี่ยวข้องและปรากฏชื่อออกมานั้นมีความผิดหรือไม่ นอกจากนี้ ยังต้องรอรายชื่อแพทย์จาก อย.ว่า ยังมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ด้วย

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร กล่าวว่า ตามปกติหากแพทย์กระทำการใดที่ผิดกฎหมายบ้านเมืองแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการความผิดทางจริยธรรมด้วย ซึ่งโทษจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกรณี โดยกรณีนี้ก็ต้องมาตรวจสอบพิสูจน์ว่า มีความผิดจริงหรือไม่ เพราะในอดีตที่ผ่านมาก็เคยพบกรณีการนำชื่อของแพทย์ไปใช้ หรือมีเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด เช่น เป็นผู้ซื้อ ผู้ขายรายย่อย รายใหญ่ หรือตัวการ ก็ต้องรอผลการสอบสวน โดยบทลงโทษก็มีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาต

เมื่อถามว่าแพทย์ที่ถูกระบุชื่อนั้น เป็นแพทย์ที่เพิ่งจบได้ไม่กี่ปี จะต้องมีการเตือนแพทย์รุ่นใหม่ๆ เพื่อป้องกันหรือไม่ เพราะอาจหมดอนาคตได้ พล.อ.ต.นพ.อิทธพร กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องสอบสวนเชิงลึกลงไปอีกว่า ปัจจัยหรือสาเหตุอะไรที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของแพทย์ในการกระทำ อย่างไรก็ตาม สำหรับแพทย์ใหม่ๆ ทางแพทยสภามีการอบรมหรือเตือนในเรื่องพฤติกรรมอยู่เป็นประจำ เพราะเราอยู่ภายใต้สายตาของประชาชน ผู้ป่วย และสังคม จะดำเนินการอะไรต้องคิดให้ดี รอบคอบ แต่ไม่อยากให้มองว่า แพทย์นั้นไม่ดีไปทั้งหมด เพราะวงการแพทย์ก็เหมือนวงการอื่นๆ ที่มีทั้งคนดี และไม่ดี แต่ยืนยันว่าแพทย์ส่วนใหญ่ดูแลด้วยใจและจริยธรรม ซึ่งการจ่ายยาลดความอ้วนของแพทย์นั้น ก็ไม่อยากให้ประชาชนกังวล เพราะหากจ่ายยาภายในสถานพยาบาลทุกอย่างอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของแพทย์อยู่แล้ว แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการนำออกไปขายข้างนอก

"หากแพทย์ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ก็จะถูกบันทึกไว้อยู่ในประวัติ ดังนั้น การจะไปเรียนต่อก็จะกลายเป็นสมุดพกที่ต้องนำไปด้วย ว่าเคยมีประวัติอะไรมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศก็จะเห็นประวัติเหล่านี้ แต่หากมีความผิดถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต หากจะกลับมาขอใบอนุญาตเป็นแพทย์ใหม่ต้องรอ 2 ปี แต่จะได้ใบอนุญาตหรือไม่ ก็อยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการ แต่ส่วนใหญ่พบว่า หากถูกเพิกถอนแล้วก็จะไม่กลับมาเป็นแพทย์อีก" พล.อ.ต.นพ.อิทธพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบรายชื่อแพทย์ในเว็บไซต์ของแพทยสภา พบว่า แพทย์ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ราย รายหนึ่งเป็นผู้ชาย เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเมื่อปี 2554 ยังไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนอีกรายเป็นแพทย์หญิง เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเมื่อปี 2555

นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ขณะนี้ อย.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีการกล่าวโทษเพียงตัวบุคคล ยังไม่ได้กล่าวโทษสถานพยาบาล จะลงพื้นที่เลยก็ไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่ใด คงต้องรอขอข้อมูลจากทาง อย. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะให้ข้อมูลได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ ผลการสอบสวนของทางตำรวจยังอาจต้องการปกปิดและกันไว้เป็นพยานเพิ่มเติมจึงต้องรอก่อน และยังไม่ทราบขั้นตอนว่า จะมีการขายยาที่ใด เพราะหากขายยาในสถานพยาบาลทำไม่ได้แน่นอน แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ช้าแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น