xs
xsm
sm
md
lg

อย.บุกจับยาลดอ้วน พบ 2 หมอร่วมขบวนการลักลอบนำมาขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อย.บุกจับยาลดอ้วน “เฟนเตอร์มีน” 33 จุด เผยมีหมอ 2 รายในคลินิกเอกชนร่วมขบวนการลักลอบนำออกไปขาย ทั้งอินเทอร์เน็ตและต่างประเทศ ชี้เป็นยากลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ขายให้เฉพาะสถานพยาบาลที่รับอนุญาต ต้องรายงานจ่ายให้ใคร กี่คน เตรียมส่งแพทยสภาเอาผิด พร้อมประสาน สบส.เอาผิดคลินิกด้วย

วันนี้ (11 มี.ค.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมด้วย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. เจ้าหน้าที่ อย. และศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.ตร.) เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ลักลอบนำยาลดความอ้วนออกมาขายนอกระบบ โดยไม่มีการจ่ายให้กับผู้ป่วยตามที่ได้รับอนุญาต

นพ.ธเรศ กล่าวภายหลังการตรวจจับว่า อย.ทราบเรื่องนี้มานานและได้วางแผนร่วมกับ ศอ.ปส.ตร.ในการตรวจจับผู้ลักลอบนำยาลดความอ้วนที่จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 คือ ยาเฟนเตอร์มีน (Phentermine) ชื่อการค้า ดูโรมีน (Duromine) และแพนบีซี (Panbesy) มาจำหน่าย ซึ่งรวมๆ แล้วได้มีการกระจายการจับกุม 33 จุด แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร (กทม.) 13 จุด และต่างจังหวัดอีก 20 จุด มีอุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา หนองบัวลำภู สระบุรี นนทบุรี สุโขทัย ตาก และพิษณุโลก ที่สำคัญยังพบว่า มีแพทย์ร่วมในขบวนการลักลอบใช้สารที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 จำนวน 2 ราย ซึ่งอยู่ในคลินิกเอกชนต่างจังหวัด แต่ต้องขออนุญาตยังไม่เปิดเผยข้อมูลหรือในรายละเอียดมากนัก เพราะอยู่ในระหว่างดำเนินคดี ซึ่งทางแพทย์ก็มีสิทธิในการสู้คดีอยู่

“เพื่อความปลอดภัย อย.ได้สั่งระงับการใช้ยาในกลุ่มนี้หมดแล้ว เนื่องจากตามกฎหมายการขออนุญาตการใช้สารดังกล่าว ทางคลินิกหรือสถานพยาบาลทุกแห่งจะต้องขอทาง อย.เข้ามา และเมื่อได้รับอนุญาต จะต้องมีการรายงานว่า จ่ายยาไปให้ใคร จำนวนเท่าไร กี่คน แต่ใน 2 รายที่อยู่ในข่ายลักลอบครั้งนี้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งก็ต้องถูกดำเนินคดี ขั้นต่อไป อย.จะแจ้งไปยังทางแพทยสภาเกี่ยวกับแพทย์ทั้ง 2 ราย รวมทั้งจะแจ้งไปทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เกี่ยวกับคลินิกดังกล่าวด้วย” นพ.ธเรศ กล่าว

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พบว่าส่วนหนึ่งมีการขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต และอีกส่วนหนึ่งขายให้กับผู้ค้ารายย่อยนำไปขายต่อผ่านทางแอปพลิเคชัน ไลน์ อินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น จีน แคนาดา ฟิลิปปินส์ เป็นต้น เบื้องต้นมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท ส่วนหากจะมีการสู้คดีก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นพ.ธเรศ กล่าวว่า สำหรับ “เฟนเตอร์มีน” จะมีผลต่อระบบประสาทและสมอง ทำให้ความอยากอาหารลดลง แต่ยามีผลข้างเคียงต่อหัวใจ ทำให้ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ หากใช้ไปนานๆ จะเกิดภาวะติดยาได้ รวมไปถึงเกิดภาวะไหลเวียนของเลือดล้มเหลว หัวใจล้มเหลว จนเสียชีวิตได้ โดยหลักการยานี้จึงไม่ควรใช้นานเกิน 1-2 สัปดาห์ การใช้ต้องมีการตรวจประเมินโดยแพทย์เสมอ จึงกำหนดให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ฯ ประเภท 2 ที่ต้องควบคุม คือ สถานพยาบาลที่จะจำหน่ายต้องขึ้นทะเบียน ได้รับอนุญาตจาก อย. เมื่อจำหน่ายแล้วต้องทำรายงานใช้กับคนไข้กี่คน ซึ่งจริงๆ จะมีกำหนดด้วยว่าแต่ละคลินิกจะได้ไม่เกินกี่เม็ดต่อเดือน แต่กรณีที่เกิดขึ้นมีการลักลอบนำยาดังกล่าวจากคลินิกเอกชน ไปขายให้นายทุน ผู้ประกอบการอื่น ในการขายนอกระบบ ขายราคาสูงกว่า 5-10 เท่า

นพ.สุรโชค​ กล่าวว่า​ สำหรับแพทย์ที่ร่วมกระบวนการนั้นภายใน 1-2 วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งรายชื่อมาให้กับทาง อย. เพื่อให้ อย.ส่งเรื่องต่อไปยังแพทยสภา หลังจากนั้นก็จะมอบให้แพทยสภาเพื่อพิจารณาโทษต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น