xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต สั่งเข้ม “คนเฝ้าไข้” ต้องลงทะเบียน แลกบัตร ปชช.แยกวอร์ดสาวประเภทสองยังทำไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต สั่งเข้ม “คนเฝ้าไข้” ต้องลงทะเบียนทั้งหมด แลกบัตรประชาชนก่อนเข้าดูแลผู้ป่วย รับจัดวอร์ดสาวประเภทสองโดยเฉพาะเป็นเรื่องยาก ให้อยู่วอร์ดผู้หญิงต้องมีนโยบายชัดจาก สธ.หรือแพทยสภา ด้านเลขาธิการแพทยสภา แจงดูแลมาตรฐานการรักษา เรื่องแยกวอร์ดสาวประเภทสองเป็นหน้าที่ สธ.

วันนี้ (9 มี.ค.) นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยของผู้ป่วย หลังเกิดกรณีคนรับจ้างเฝ้าไข้ก่อเหตุลวนลามผู้ป่วยสาวประเภทสองใน รพ.ว่า คนรับจ้างเฝ้าไข้จะมีทั้งที่ขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาล ซึ่งมีประมาณ 100 คน และในส่วนที่ทางญาติจัดหามาเอง โดยจากนี้จะต้องให้มาลงทะเบียนทั้งหมด ส่วนมาตรการป้องกัน คือ 1.จะต้องมีการแลกบัตรประชาชนคนมาเฝ้าไข้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ขึ้นทะเบียนกับ รพ.หรือไม่ก็ตาม 2.ให้รักษาควมปลอดภัย (รปภ.) ตรวจตราเข้มขึ้น ปิดเปิดให้ญาติเข้าตามกำหนด เช่น เตียงสามัญเฝ้าได้ 1 คน เป็นต้น 3.จัดอบรมจริยธรรมคุณธรรมการปฏิบัติตัวของผู้เฝ้าไข้ที่มาขึ้นทะเบียน

นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการดูแลสาวประเภทสอง ซึ่ง จ.ภูเก็ต มีจำนวนมาก เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สาวประเภทสองยังคงมีคำนำหน้าว่า นาย จึงต้องอยู่วอร์ดชาย แต่ด้วยความที่หลายคนมีความสวยหน้าตาดี ก็มีความเสี่ยง ก็จะให้อยู่ในเตียงที่ติดกับพยาบาล เพื่อให้ดูแลได้ใกล้ชิดขึ้น ส่วนที่ว่าจะให้เปิดวอร์ดสำหรับสาวประเภทสองแยกออกไปต่างหากนั้น เป็นเรื่องยาก เพราะอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอ ซึ่งเราแบ่งตามโรคอีก เช่น วอร์ดอายุรกรรม ก็แบ่งเป็นชายและหญิง หากแยกออกไปอีกเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอที่จะดำเนินการ

นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนที่เสนอให้สาวประเภทสองไปอยู่วอร์ดหญิงนั้น ก็ต้องคำนึงว่า ผู้หญิงก็อาจจะกลัวเช่นกันว่าจะมีการปลอมแปลงเพศเข้ามาปะปนหรือไม่ ที่สำคัญหากจะให้ไปอยู่ในวอร์ดผู้หญิงก็ต้องมีกฎระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หรือแพทยสภาออกมาให้ชัดเจน เช่น สาวประเภทสองที่แปลงเพศมาแล้ว หรือมีการแสดงตัวตนที่ยืนยันได้ว่าไปในทางผู้หญิงมากกว่าผู้ชายจริง เป็นต้น แต่ตอนนี้ทางแพทยสภายังไม่มีนโยบายวอร์ดเฉพาะสำหรับสาวประเภทสอง จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดกับทางพยาบาลไปก่อน

พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า แพทยสภาจะดูเรื่องของมาตรฐานการรักษา ซึ่งการรักษาพยาบาลของสาวประเภทสองก็เหมือนกับคนอื่นทั่วไป แต่เรื่องของการจัดระบบริการดูแลว่าควรจะไปอยู่วอร์ดหญิงหรือแยกวอร์ดต่างหากนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่าจะบริหารจัดการตรงนี้อย่างไร เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งในกลุ่มสาวประเภทสองก็มีหลากหลาย ทั้งที่แปลงเพศแล้วหรือยังไม่แปลงเพศ ก็ต้องมาพิจาณราว่าจะดูแลอย่างไร เมื่อต้องอยู่ในวอร์ดรวม อย่างไรก็ตาม แพทยสภาจะมีเพียงระเบียบเรื่องของการแปลงเพศเท่านั้นว่า การจะแปลงเพศได้ จะต้องผ่านการตรวจประเมินทางสุขภาพจิตว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นเพศที่ต้องการแปลงจริง และมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะแปลงเพศ เพราะแปลงแล้วเปลี่ยนกลับไม่ได้

ด้าน นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า จากในข่าวชายคนดังกล่าวสารภาพว่า มีการดื่มมาจากนอกโรงพยาบาล ซึ่งจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่การจะเอาผิดการดื่มเครื่องดื่มแลกอฮอล์ในโรงพยาบาลนั้น จะต้องเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า ดังนั้น กรณีนี้ก็ต้องมีหลักฐานก่อนว่าดื่มในโรงพยาบาลจริงหรือไม่ เช่น อาจตรวจสอบทางกล้องวงจรปิดว่า ชายรายนี้มีการดื่มของมึนเมาในพื้นที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามดื่มหรือไม่ หากกระทำผิดจริง ก็มีโทษคือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


กำลังโหลดความคิดเห็น