กมว.เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ “ครูจอมทรัพย์” ชี้ความผิดชัดจ่อเพิกถอนใบอนุญาตฯ
วันนี้ (8 มี.ค.) รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธุ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดนครพนม มีคำพิพากษาจำคุก นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ ครูจอมทรัพย์ อายุ 57 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร 8 ปี ว่า ก่อนหน้านี้ ที่ กมว.อนุมัติต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้แก่ นางจอมทรัพย์ เนื่องจากพิจารณาตามหลักเกณฑ์การพิจารณาลักษณะต้องห้าม กรณีต้องโทษจำคุก โดยพิจารณาว่าการขับรถชน คือความประมาท และไม่มีใครอยากทำให้มีใครตาย จึงถือว่าไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามในทางจรรยาบรรณวิชาชีพ แต่ขณะนี้เมื่อเกิดกรณีใหม่ขึ้นมา และศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า มีการปั้นพยาน ให้ความเท็จ และแจ้งความเท็จ เพราะฉะนั้น คุรุสภาจะต้องเสนอเรื่องมายัง กมว.พิจารณากรณีการประพฤติผิดเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพ
“กรณีนางจอมทรัพย์ ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง แต่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ ได้เลย เพราะมีคำพิพากษาแล้ว ซึ่งต้องรอคุรุสภาเสนอเรื่องเข้ามาก็สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้ทันทีตามกรอบเวลาจะต้องแล้วเสร็จภายใน 180 วัน แต่เรื่องนี้สามารถทำได้เร็ว เพราะมีข้อมูลชัดแล้วไม่ต้องเสียเวลาสอบสวนใหม่ ซึ่งโทษการกระทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ มีทั้งพักใช้ใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาต แต่กรณีนางจอมทรัพย์ ที่กระทำแบบนี้มีคำพิพากษาออกมาชัดเจนว่าทำเสื่อมเสียต่อจรรยาบรรณวิชาชีพครู กมว.ก็สามารถเพิกถอนใบอนุญาตได้”
รศ.ดร.เอกชัย กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ ที่มีคดีการฟ้องร้องหวย 30 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการสอบสวนฯ และศาลยังไม่มีคำพิพากษาในเรื่องนี้ออกมา เพราะฉะนั้น เพื่อให้กระบวนการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จำเป็นต้องรอก่อนว่าศาลจะมีคำพิพากษาเช่นไร ถ้าศาลพิพากษาและพบว่ามีผลทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ ก็จะนำคำพิพากษามาประกอบการพิจารณาความประพฤติทางจรรยาบรรณต่อไป อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน นายปรีชา ไม่ได้ปฏิบัติการสอนแต่มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 8 (ราชบุรี-กาญจนบุรี)