“ธีระเกียรติ” แนะทุกโรงเรียน-มหาวิทยาลัย ให้ความสำคัญดูแลสุขภาพจิตเด็ก ประสานราชวิทยาลัยจิตแพทย์-ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ ร่วมวางระบบดูแลสุขภาพจิตเด็กในสถานศึกษา
วันนี้ (7 มี.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการและจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์นักเรียน นักศึกษากระโดดตึกและเสียชีวิต เรื่องนี้ควรให้ความสำคัญที่เรื่องสุขภาพจิต ซึ่งปัญหาสุขภาพจิต เป็นความเจ็บป่วยทางจิต ไม่ใช่เรื่องว่าเครียดหรือไม่เครียดอย่างเดียว และผู้ที่ป่วยโรคซึมเศร้า เมื่อมีอาการจะมาบอกให้เขาคิดดีๆ คิดบวกไม่ได้ผล เนื่องจากเมื่อมีอาการสารเคมีในสมองหลั่งออกมาเขาก็จะคิดแต่เรื่องลบ ซึ่งจะต้องได้รับการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันเด็กส่วนใหญ่ป่วยโรคซึมเศร้ามากขึ้นและมีความเสี่ยงในเรื่องสุขภาพจิต ส่วนจำนวนเด็กและเยาวชนที่ป่วยโรคซึมเศร้ามีมากหรือไม่นั้นตนไม่มีข้อมูล แต่สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความเครียดในการเรียน ดังนั้น สถานศึกษาทุกระดับตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงมหาวิทยาลัย ควรต้องมองใหม่ ให้ความสำคัญในมิติสุขภาพจิตโดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เข้ามาร่วมกันสร้างระบบดูแลสุขภาพจิตเด็ก
“ที่ผ่านมาผมได้พยายามสื่อสารเรื่องนี้ไปยังสื่อสารไปที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ด้วยแต่ก็ไม่สำเร็จง่ายๆ เพราะเวลาคนมองเรื่องนี้ก็มองว่าเครียด หรือทำไมอ่อนแอ แต่จริงๆเป็นเรื่องที่ต้องมองให้ลึกซึ้งในเรื่องของสุขภาพจิต เพราะฉะนั้น มหาวิทยาลัยก็ต้องให้ความสนใจเรื่องสุขภาพจิต ครูเองก็ต้องคอยสังเกต เพราะคนที่คิดจะฆ่าตัวตายทุกคน 3 ใน 4 จะบอกคนใกล้ชิด จะแสดงว่าจะทำ หรือทิ้งร่องรอย ดังนั้น ถ้าจับสังเกตคนใกล้ชิดต้องกล้าถามว่าเขามีความคิดนี้หรือไม่ ได้คำตอบก็รีบช่วย ขณะเดียวกันก็สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น เด็กไม่ยอมกินข้าว แยกตัวไม่เข้าสังคม กิจกรรมอะไรก็ไม่ทำให้มีความสุข ถ้าเป็นแบบนี้ต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ก็ต้องคอยดูแล หรือถ้าใช้คำพูด เช่น โลกนี้ไม่น่าอยู่ อยากตาย แต่มีการเตรียมตัว เหล่านี้ก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงทางการแพทย์ก็จะมีกระบวนการ ซึ่งพ่อแม่ หรือคนกว้างๆอาจจะไม่รู้”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว